ก้าวไกลแค่ได้ยินไร้หลักฐานแจกงบ ส.ส.80 ล้าน

2020-06-01 17:00:44

ก้าวไกลแค่ได้ยินไร้หลักฐานแจกงบ ส.ส.80 ล้าน

Advertisement

รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลแถลงได้ยินมาว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณ 80 ล้านบาทสำหรับ ส.ส.แต่ละคน

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เเถลงถึงกระบวนการของรัฐบาลในการเเจกงบประมาณต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยผ่านการใช้เม็ดเงิน พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ ว่า งบประมาณที่ตนได้ยินมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 พ.ค.เป็นการพูดคุยระหว่างส.ส.ด้วยกัน ทั้งในพรรคฝ่ายค้านและรัฐบาลว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณให้ 80 ล้านบาทสำหรับ ส.ส.แต่ละคน ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่ไม่มี แต่มีมานานแล้วที่เรียกว่า งบ ส.ส. แต่ไม่มีหลักฐาน แต่เชื่อว่าการที่ออกมาพูดลักษณะนี้อย่างน้อยจะเป็นการป้องปรามหยุดยั้งสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น สำคัญที่สุดคือเราต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบเงินกู้เหล่านี้

นายพิจารณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อครั้งที่ตนเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ประเด็นนี้ก็มีเรื่องมาเข้าหูเหมือนกัน ในครั้งนั้นมีการพูดคุยในลักษณะนี้ว่ามีการแบ่งปันงบ ส.ส.ตัวเลขอยู่ที่ 20-30ล้านบาท แต่ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ได้เพราะขณะนั้นพรรคอนาคตใหม่ไม่มีส่วนร่วมในการพูดคุยเกี่ยวกับงบ ส.ส.ดังกล่าว แต่ครั้งนี้เมื่อตนได้ยินเรื่องนี้แล้วคิดว่าจำเป็นที่จะต้องลุกขึ้นพูดประเด็นนี้กลางสภาฯ เพราะอย่างน้อยให้ประชาชนได้รับรู้ว่ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น

“จริงๆแล้วงบลักษณะนี้เคยมีมาอยู่แล้วเพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดเอาไว้ แต่สำหรับรัฐธรรมนูญปี 2560 มีการบัญญัติใน ม.144 ว่าการที่ส.ส.จะผันงบลงพื้นที่ตนเองทำไม่ได้ ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญและผิดกฎหมาย และขณะนี้ประเทศเรากำลังอยู่ภายใต้วิกฤตโควิด จึงจำเป็นต้องกู้เงินภายใต้พ.ร.ก.ที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้ 1ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในประวัติการณ์ ดังนั้นงบที่ได้ควรจะจัดสรรและใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและประเทศชาติ ต่อให้ไม่มีงบ ส.ส. ไม่มีการคอร์รัปชัน การบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพก็แย่อยู่แล้ว แต่ถ้ายังมีการทุจริต แบ่งเค้กกัน ผมเห็นว่าความหวังที่ไทยจะฟื้นฟูผลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสก็ยากเหลือเกิน” นายพิจารณ์ กล่าว

นายพิจารณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีงบลงไปแล้วทำให้ส.ส.สามารถเลือกใช้ได้ว่าจะใช้อย่างไรกับโครงการไหน มีโอกาสสูงมากว่าโครงการที่ดีๆมาจากหน่วยงานข้าราชการ และโครงการที่ตอบสนองท้องถิ่นจริงอาจจะไม่เกิดขึ้นเพราะไม่ตรงกับผลประโยชน์นักการเมืองบางคน บางกลุ่มในท้องถิ่น โดยงบเหล่านี้จะไปถึงตัว ส.ส.โดยผ่ายผู้ว่าราชการจังหวัด ดังนั้นเป็นสิ่งที่ตนจำเป็นต้องพูดและ ส.ส.พรรคอื่นหลายคนก็อยากพูดตีแผ่ในเรื่องนี้ แต่พูดไม่ได้เพราะเป็นการขัดผลประโยชน์กับเพื่อนส.ส.ด้วยกันดังนั้น สำคัญที่สุดคือเราต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบเงินกู้เหล่านี้ ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลยังคงยืนยันตามเจตนารมณ์เดิมของพรรค ที่ให้เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ โดยเมื่อมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯทางพรรคก้าวไกลจะเสนอให้มีการสร้างดิจิตัลแพลตฟอร์ม เพื่อที่จะจับทุกโครงการที่ใช้งบประมาณและมาตรการแก้ไขโควิด เพื่อจะให้หน่วยงานต่างๆที่ๆได้รับงบประมาณมีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลเข้ามา ซึ่งจะรวดเร็วกว่าการให้ฝ่ายบริหารมารายงานต่อสภาฯทุก3 เดือนหรือ 6 เดือน ซึ่งจะรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำมากกว่าด้วย ทั้งนี้ระบบดังกล่าวจะได้ผลมากน้อยแค่ไหนต้องอาศัยความร่วมมือจากส.ส.ทุกคน ซึ่งเชื่อว่ามีส.ส.จำนวนมากที่เห็นประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ