สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในบราซิลยังรุนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีกในวันเดียวเกือบ 1,000 คน อยู่ที่ 956 คน ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมทั่วประเทศ พุ่งสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก โดยผู้เสียชีวิตขณะนี้ อยู่ที่ 28,834 คน แซงฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ที่ 28,805 คน และเป็นรองแค่สหรัฐ, สหราชอาณาจักร และอิตาลีเท่านั้น ขณะที่ จำนวนผู้ติดเชื้อก็เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง อยู่ที่ 498,440 คน อันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 1.77 ล้านคน ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้ทั่วโลก อยู่ที่ 6,132,154 คน และเสียชีวิต 371,154 คน
ประธานาธิบดีจาอีร์ โบลโซนาโร ผู้นำบราซิล ยังยืนกรานไม่ได้สนใจกับการระบาดของไวรัส แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศจะพุ่งสูงสุดเป็นอันดับ 2 ก็ตาม เขาวิพากษ์วิจารณ์มาตรการล็อคดาวน์ของรัฐต่าง ๆ ว่าทำลายเศรษฐกิจของประเทศ และทำให้ผู้คนตกงานด้วย
ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตในบราซิล เพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าในทุก ๆ 2 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับประมาณทุก ๆ 2 เดือนในสหราชอาณาจักร, ทุก ๆ 4 เดือนในฝรั่งเศส และทุก ๆ 5 เดือนในอิตาลี
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ตัวเลขที่แท้จริง อาจสูงกว่านี้มาก เนื่องจากบราซิลไม่มีการตรวจหาเชื้อไวรัส
รัฐอามาโซนัส เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อสูงสุดของบราซิล และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีระบบสาธารณสุขที่ด้อยพัฒนาที่สุด ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า อเมริกากลางและใต้ ขณะนี้ กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดที่สำคัญของไวรัสโควิด-19 แล้ว เนื่องจากผู้ติดเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งจากสถานการณ์ที่ระบบสาธารณสุขไร้ความสามารถ บวกกับการไร้ความสามารถของรัฐบาลในการรับมือการระบาดของโควิด-19 หมายความว่า ภูมิภาคนี้ไม่สามารถผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ได้เหมือนกับที่เกิดขึ้นในยุโรปและภูมิภาคอื่น ๆ