สมาคมนักข่าวฯ ตั้ง 6 อรหันต์แสวงหาข้อเท็จจริงกรณีผู้บริหารสื่อมีพฤติกรรมเข้าข่ายคุกคามทางเพศ
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ ระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีกระแสข่าวพาดพิงถึงผู้บริหารองค์กรสื่อมีพฤติกรรมเข้าข่ายคุกคามทางเพศ รวมทั้งความเคลื่อนไหวเข้าชื่อเรียกร้องให้องค์กรสื่อมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากกลุ่มนักข่าวภาคสนามที่ปรากฏเป็นจดหมายเปิดผนึกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ อันเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ต้องมีความตระหนักด้วยมิติแห่งเพศ และกระแสสังคม และยังเกี่ยวพันถึงความน่าเชื่อถือในแวดวงสื่อสารมวลชนโดยรวม ตลอดระยะเวลากว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา สมาคมนักข่าวฯ ได้พยายามทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่น่าเชื่อถือตามกรอบที่ได้หารือกันไว้ ท่ามกลางกระแสข่าวที่ยังคงเผยแพร่ต่อเนื่องอย่างสับสนเป็นระยะๆ ซึ่งทำให้การทาบทามเป็นไปด้วยความยากลำบาก จนในที่สุดผู้ได้รับการทาบทามได้ตอบรับมาในจำนวนที่เพียงพอที่จะเริ่มต้นทำงานเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงจากกระแสข่าวต่างๆ ได้แล้ว
คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ จึงอาศัยอำนาจหน้าที่ตามข้อบังคับสมาคมนักข่าวฯ พ.ศ. 2543 (แก้ไขเพิ่มเติม 5 มิ.ย.2557) หมวด 2 วัตถุประสงค์ ข้อ 5 หมวด 4 หน้าที่และสิทธิของสมาชิก ข้อ 7 และ หมวด 6 การบริหารสมาคม ข้อ 16 ก. และ ค. ประกอบกับแนวทางตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2558 ว่าด้วยมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน อีกทั้งสอดรับกับกระบวนการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบกันเองของสื่อมวลชนโดยการให้ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกเข้ามามีส่วนร่วม ด้วยกระบวนการที่โปร่งใส จึงมีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีกระแสข่าวพาดพิงถึงผู้บริหารองค์กรสื่อ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงให้เกิดความกระจ่างในความเป็นมาเป็นไปของกระแสข่าว รวมทั้งเกิดความชัดเจนในข้อเท็จจริงของประเด็นที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคล องค์กร ตลอดจนแวดวงสื่อสารมวลชนโดยรวม
คณะอนุกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงชุดนี้ประกอบด้วย 1.รศ. ดร.จุรี วิจิตรวาทการ เลขาธิการมูลนิธิองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย 2.รศ. ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการทางกฎหมาย 3.ผศ.ดร.เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ อดีต ผอ.โครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม 4.น.ส. สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง คณะอนุกรรมการด้านสิทธิและความเสมอภาคทางเพศ ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 5.นายนคร ศรีสุโข นักจิตวิทยาคลินิกชำนาญการพิเศษ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา 6.นายทัศนัย ไชยแขวง อุปนายกฝ่ายประชาสัมพันธ์ และอุปนายกฝ่ายต่างประเทศ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยอนุกรรมการชุดนี้จะทำงานในทางลับ เพื่อป้องกันผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ และรายงานต่อสมาคมนักข่าวฯ โดยตรง มีกรอบระยะเวลาการทำงานภายใน 90 วัน โดยมีการเปิดรับข้อมูล หลักฐานจากบุคคลภายนอกเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 30 วัน และแสวงหาข้อเท็จจริงภายใต้ขอบเขตความรับผิดชอบและอำนาจหน้าที่ของสมาคมนักข่าวฯ รวมทั้งอาจเสนอรายงานข้อเสนอแนะต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อสมาคมนักข่าวฯ โดยต้องรักษาความลับของบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ที่อาจได้รับผลกระทบและความเสียหายอย่างไม่เป็นธรรม และจะไม่มีการแถลง ให้ข่าว หรือให้สัมภาษณ์ จนกว่าการแสวงหาข้อเท็จจริงจะยุติ