“ก้าวไกล”ยื่นประธานสภาฯ ส่งศาล รธน.วินิจฉัยคุณสมบัติ "ธรรมนัส"

2020-05-27 16:30:39

“ก้าวไกล”ยื่นประธานสภาฯ ส่งศาล รธน.วินิจฉัยคุณสมบัติ "ธรรมนัส"

Advertisement

“พรรคก้าวไกล”ยื่นประธานสภาฯ ส่งศาล รธน.วินิจฉัย "ธรรมนัส" มีลักษณะต้องห้ามการเป็น ส.ส.และขาดคุณสมบัติ รมต.หรือไม่  ด้าน "ธรรมนัส" พร้อมชี้แจง ลั่นกรณีถูกละเมิดทำเสียชื่อเสียง จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เมื่อวันที่ 27 พ.ค.  ที่รัฐสภา  นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกลยื่นหนังสือต่อนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มีคุณสมบัติต้องห้ามการเป็น ส.ส. หรือไม่ กรณีคู่สมรสถือครองหุ้นตลาดคลองเตย ซึ่งเป็นการถือครองสัญญากับการท่าเรือ กระทรวงคมนาคม ถือเป็นคู่สัญญากับภาครัฐหรือไม่  และขาดสมบัติดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีที่ประเทศออสเตรเลีย


นายชัยธวัช กล่าวว่า  พรรคก้าวไกล ดำเนินการเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ยุติไว้ช่วงมีปัญหาที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ เมื่อมีการเปิดประชุมสภาฯ แล้ว จึงรวบรวมรายชื่อ 54 ส.ส. ของพรรคยื่นต่อประธานสภาฯ และไม่ใช่การดำเนินการเพื่อตอบโต้กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทกับ 2 ส.ส.ของพรรคคือ นายธีรัจชัย  และนายณัฐชา ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เป็นการทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส. ฝ่ายค้านที่จะต้องตรวจสอบ ฝ่ายบริหารและการเข้าสู่ตำแหน่งของรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และจะใช้เวทีไต่สวนของศาลเพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริง

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งหนังสือดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพว่า ขอบคุณสมาชิกพรรคก้าวไกลที่เข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้อง มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถ้าเป็นมวยก็เหมือนวิ่งรอบเวทีมานานพอสมควร ไม่รู้จักจบจักสิ้น และผ่านกลไกสภาฯมาแล้ว ซึ่งเรื่องนี้สภาฯ ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่ารัฐมนตรีท่านใดมีลักษณะต้องห้าม ท้ายที่สุดก็ขึ้นอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งตนเคยหารือฝ่ากฎหมายมาแล้วหลายรอบว่าอยากทำหนังสือยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจะได้จบเสียที วันนี้จึงขอบคุณพรรคก้าวไกลที่ดำเนินการเรื่องนี้  ที่ผ่านมาการทำงาน ส.ส.บางท่าน เหมือนเด็กฟันกำลังงอก คันปากคันเหงือกอยากพูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่คำนึงว่าผิดกฎหมายหรือละเมิดคนอื่น แต่กรณีใดที่ละเมิดตน ทำตนหรือครอบครัวเสียชื่อเสียง จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลายคนมองคดีหมิ่นประมาทโทษต่ำ แต่อย่าลืมว่าการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ พูด 10 ครั้งก็แจ้งความได้ 10 ครั้ง ที่ตนไปแจ้งความที่ จ.พะเยา เพราะเป็นส.ส.พะเยา และระวังด้วย เพราะตนมีบ้านอยู่ตากใบ จ.นราธิวาสด้วยไม่ได้ขู่