ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงกักตัวสู้โควิด-19นั้น จู่ๆก็มีเพลงเปิดวงของ “เจน-นุ่น-โบว์ ซุปเปอร์วาเลนไทน์” ดังเปรี้ยงทะลุกระแสโควิด ถึงขนาดที่ว่าไปที่ไหนมีแต่คนร้องเพลงนี้เต็มไปหมด แม้แต่ดารานักร้องนักแสดงก็ยังพากันโคฟเวอร์เพลงนี้กันเพียบ ทำให้ "เจน-นุ่น-โบว์" คิวงานแน่นสวนทุกกระแสขึ้นมา ล่าสุดทั้งสามสาวได้นำเพลงล่าสุด "ซุปเปอร์สเปรดเดอร์ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" มาโชว์ลีลาท่าเต้นและร้องกันสดๆในรายการ “ต้มยำอมรินทร์” พร้อมกับเปิดใจหลังจากที่ดังขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปแบบไม่ทันตั้งตัว
โบว์ : เปลี่ยนไปก็ค่อนข้างเยอะค่ะ เมื่อก่อนพวกหนูไม่เคยได้รับโอกาสดีๆจากพวกสินค้าหรืออะไรแบบนี้ คือเราก็เป็นศิลปินที่ไม่ได้มีชื่อเสียง ไม่ได้มีเพลงร้อยล้านวิวกับเขา ก็จะไม่มีสินค้าเข้ามาให้รีวิว แต่พอมาตอนนี้เราได้รับโอกาสพวกนั้นที่เราอยากทำแต่เราไม่เคยได้ทำ ได้รับหมดแล้ว
ตกใจไหม อยู่ดีๆตื่นมาวันหนึ่งคนร้องเพลงเราได้ทั้งประเทศ?
นุ่น : ก็ตกใจ จริงๆก่อนหน้านี้ที่เราทำเพลงเป็นครั้งแรก ไม่ได้มีคนร้องได้เยอะขนาดนี้
โบว์ : คือไม่ได้ตั้งใจจะทำเป็นเพลงขายค่ะ คือเราตั้งใจจะทำเป็นเพลงเปิดวงเฉยๆ
ถ้าเทียบก็คือเพลงนี้เป็นเพลงแรกของซุปเปอร์วาเลนไทน์เลย
3 สาว : ใช่ค่ะ
ทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนกันมาก่อนไหม หรือมาเจอกันตอนที่เป็นวง?
นุ่น : เป็นเพื่อนกันมาก่อนค่ะ
โบว์ : คือทำงานด้วยกันมาก่อน จากวงเก่าที่เป็นวงดนตรีงานนอก วาเลนไทน์อ่างทองค่ะ
วงวาเลนไทด์ยังอยู่ แล้วพวกพี่ยังอยู่ไหม?
โบว์ : ไม่ค่ะ เราออกจากวงวาเลนไทน์มา แล้วก็มาเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดท็อปไลน์ มาอยู่ได้ 9 ปี เข้าปีที่ 10 พร้อมกับเพลงซุปเปอร์วาเลนไทน์นี่แหละค่ะ ไม่ได้เลิกวงนะ ทุกวันนี้ยังรับงานกันอยู่ ถ้าไม่มีโควิดเนี่ย ไม่อยากจะคิดเลยตอนนี้ เสียดายงาน เสียดายเงิน
แต่ต้องบอกว่าที่เราทำเพลงมา 10 ปีเนี่ย มีงานบ้างไม่ได้มีงานบ้าง ช่วงที่เราไม่ได้มีงานอีเวนท์ เราทำอะไรกันบ้าง?
เจน : จริงๆแล้วพวกเรา 3 สาวมีอาชีพร้องเพลงเป็นหลัก แล้วช่วงที่ไม่ได้ร้องเพลง เราก็จะมีอาชีพเสริม อย่างเจนก็จะเปิดร้านขายข้าวแกงบ้านแม่ยาย ที่โคกสำโรง ลพบุรี
นุ่น : นุ่นนี่ก็คือ แม่เป็นแม่ค้าตลาดนัดมาเป็น 10 ปีแล้ว เราว่างเราจะไปช่วยสับไก่ ขายไก่ แล้วก็เรียนตัดผม เรียนเสริมสวย ทำน้ำเต้าหู้ขายอะไรแบบนี้ค่ะ
โบว์ : หนูไม่ได้ทำอะไร หนูร้องเพลงอย่างเดียวค่ะ แต่ถ้าเกิดช่วงที่เข้าพรรษางานไม่มีอะไรอย่างนี้ ก็ขนชุดร้องเพลงเก่าๆออกมาขายบ้าง
ตอนนี้คิวจองงานข้ามปีแล้ว?
โบว์ : ก็คือเจ้าภาพหรือโบ๊คเกอร์เขาจะจองเป็นมัดจำไว้ก่อนว่าเอากี่คิว แต่ว่าเขายังไม่ได้กำหนดวัน เพราะถ้าเกิดว่าเราเล่นคอนเสิร์ตได้ เขาก็จะลงวันเลย เขาก็จะจองๆๆแบบนี้ค่ะ
พอกระแสเรามา ตอนนี้เริ่มทำเพลงใหม่กันหรือยัง?
ทุกคน : เริ่มแล้วค่ะ
โบว์ : ตอนนี้คือเข้าห้องบันทึกเสียงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นเพลงแดนซ์สไตล์ซุปเปอร์วาเลนไทน์
เห็นว่าโบว์ก็มีผลงานเดี่ยวด้วย ?
โบว์ : ก็ระยะหลังเนี่ยเราได้ทำเพลงเดี่ยวกันหมดเลย ไม่ได้ทำเพลงรวมแล้วค่ะ แต่ว่าหนูมีซิงเกิลล่าสุดที่หนูเพิ่งปล่อยออกมา ปล่อยแล้วก็มาเจอโควิดเลย ชื่อเพลง “โสดระยะสุดท้าย”ค่ะ
สมมุติเราไปล่ะ ต้องเจออยู่แล้วลูกค้าที่เมามายมาก ?
เจน : อย่างเราไปเล่นคอนเสิร์ตเนี่ย ซุปเปอร์วาเลนไทน์ ด้านหน้าเวทีก็จะมีหลายเวอร์ชั่นที่มาดูพวกเรา เวลาจับมือพวกเราอย่างงี้ เขาไม่ได้จับแค่แบบว่าขอจับมือแตะ กระโดดขึ้นมาจับขา เขาจับข้อขาเรา ด้วยความที่เราใส่รองเท้าส้นสูง เราบอกให้ปล่อย เขาไม่ยอมปล่อย แล้วไมค์ที่เราถืออยู่ เราก็เลยฟาดไปที่หัวเลย มันจะมีวิธีรับมือหลายรูปแบบอย่างพวกทะลึ่งมาเราก็ทะลึ่งกลับบ้างอะไรแบบนี้ค่ะ
มี 1 ใน 3 คนนี้เป็นสายพูดน้อย ต่อยหนัก ?
นุ่น : จริงๆนุ่นจะเป็นคนเงียบๆ แต่ถ้าเกิดเราพูดอะไรมา นุ่นไม่ต้องด่าไง การด่ามันดูแรงไป เราก็ใช้คำพูดเชือดแบบนิ่มๆ บางทีเราก็ใช้สายตามองอะไรงี้
ตอนเดินสายเคยเจอโรคจิตหนักๆแรงๆไหม?
นุ่น : มันก็จะมีพวกแอบส่องตามใต้ถุนเวทีอะไรแบบนี้
โบว์ : ส่องก็มี มานั่งดูเราเปลี่ยนเลยก็มีค่ะ คือเราร้องนานมาก 4 ชั่วโมงค่ะ
นุ่น : คือเราจะนั่งปูเสื่อเปลี่ยนชุดอยู่หลังเวที เขาก็จะแหวกแล้วก็ส่องมาที่หน้าอก (ใช้แสงเลเซอร์)
เจน : ต้องบอกว่าพวกเราซุปเปอร์วาเลนไทน์ ไม่เหมือนศิลปินท่านอื่นๆ นั่งอยู่บนรถตู้แล้วเดินลงไป คือเราไปถึงปูเสื่อของกล่องมาวางแต่งหน้า
โบว์ : พวกหนูคือเปลี่ยนทุกเพลงที่ขึ้นร้องสลับกัน
เจน : เวลาเปลี่ยนเราก็ผ้าถุงใส่ยางยืดค่ะ กระโจมอกเราก็สวมเปลี่ยนปกติเลย
