นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น แถลงผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ถึงประชาชนทั่วประเทศ ในวันจันทร์ว่า เขาได้ยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศแล้ว ปิดฉากมาตรการคุมเข้มในพื้นที่ที่เหลือ ซึ่งยังคงบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ รวมทั้งกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศด้วย
นายอาเบะ กล่าวว่า เรามีบรรทัดฐานที่เข้มงวดมากสำหรับการยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน เราได้ตัดสินใจแล้วว่า เราได้ปฏิบัติตามบรรทัดฐานนี้ ประเทศได้บริหารจัดการเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายพื้นที่เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา จากนั้นก็ขยายไปทั่วประเทศ
ญี่ปุ่นได้ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม แต่ก็ยังคงบังคับใช้ในหลายพื้นที่ ซึ่งมีกรุงโตเกียวรวมอยู่ด้วย ภายใต้การเฝ้าระวังเพื่อรับประกันว่า สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสได้
ทั้งนี้ ญี่ปุ่น ประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐและจีน มีตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจใหญ่อื่น ๆ ญี่ปุ่นสามารถรอดพ้นจากการระบาดใหญ่มาได้ หลังจากเบื้องต้นหวั่นเกรงกันว่าจะมีการระบาดใหญ่รอบ 2 จนต้องมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานว่า จนถึงขณะนี้ ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 16,600 คน และเสียชีวิต 839 คน อย่างไรก็ตาม การระบาดของไวรัส ก็ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย และทำคะแนนนิยมของนายอาเบะ ตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี
ผลการสำรวจของหนังสือพิมพ์อาซาฮี ในช่วงสุดสัปดาห์ พบว่า คะแนนนิยมของนายอาเบะ อยู่ที่ 29 เปอร์เซ็นต์ ต่ำสุดตั้งแต่เข้ากลับคืนสู่อำนาจเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปลายปี 2555 และคะแนนไม่พอใจอยู่ที่ 52 เปอร์เซ็นต์