ประตูสู่นรกดูจะยังเปิดกว้างต่อไป สำหรับอมนุษย์ ที่ไม่รู้บาปบุญคุณโทษ ทำความชั่วช้าสามานย์โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายหรือกฎแห่งกรรม สำหรับโอกาสก้าวเดินผ่านประตูนี้ไปชดใช้กรรมที่ก่อ
ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เป็นแม่ของลูก ไม่ว่าจะลูกแท้หรือลูกบุญธรรม จะกล้าก่อกรรมทำเข็ญได้อำมหิตลงคอขนาดนี้
ไม่ควรใช้คำว่าแม่กับคนที่ชื่อ "ปุ๊ก" ในจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งทำมาหากินบนความทุกข์ทรมานของเด็กถึง 2 คน โดยการโพสต์ภาพและข้อความเรียกร้องความสงสารเห็นใจจากผู้คนทั่วไป อ้างโรคประหลาดและอาการทุรนทุรายของลูกเพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือรักษาพยาบาล
และเพื่อให้สมจริงสมจัง ก็เริ่มจากให้คนช่วยอุดหนุนสินค้าที่เธอทำ การอัพภาพของเด็กน้อยด้วยอาการที่ย่ำแย่ แม้กระทั่งร้องกล่อมลูกก่อนตาย สร้างดราม่าเมื่อสูญเสียลูกแล้วจะไปบวชชี
นำไปสู่การหลั่งไหลของธารน้ำใจจากผู้คนและบริจาคเงินครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งประเมินว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีมากถึง 10 ล้านบาท
เมื่อเคสแรกได้ผล สามารถทำเงินจากความสงสารและเห็นใจ อันเป็นอุปนิสัยของคนไทยทั่วไปได้เป็นกอบเป็นกำ ก็ลงมือเคสที่ 2 ต่อ เรื่องราวที่โพสต์ขอความช่วยเหลือก็ไม่ต่างจากเคสแรก ที่เพิ่มเติมเข้าไปคืออ้างโรคประหลาดที่เป็นพันธุกรรม เด็ก 2 คนมีอาการป่วยเหมือนกัน ทั้งที่ในเวลาต่อมาได้มีการยืนยันแล้วว่า เด็ก 2 คนไม่ใช่พี่น้องแท้ๆที่จะได้รับพันธุกรรมและเกิดโรคประหลาดอย่างที่พยายามอุปโลกน์ขึ้นมา
โชคดีเหลือเกินสำหรับเด็กคนที่ 2 ที่เธออ้างว่าเป็นลูกแท้ๆด้วยซ้ำ ได้รับอานิสงส์จากผู้คนในโลกโซเชียลและคนที่เคยช่วยเหลือเด็กคนแรกด้วยการโอนเงินช่วยซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับของด้วยข้ออ้างสาระพัด บวกกับวิธีการ "ลวงโลก" ที่เธอใช้ คล้ายคลึงกับกรณีแรก และยังมีพิรุธปฏิเสธไม่ทำตามคำแนะนำให้พาเด็กไปรักษาที่โรงพยาบาลที่มีความเขี่ยวชาญโดยเฉพาะ จึงกลายเป็นแรงกระตุ้นให้มีการ "ฉีกหน้ากาก" ทั้งการแจ้งความดำเนินคดีฉ้อโกง และแพร่กระจายพฤติการณ์ต้องสงสัยหลายอย่างให้คนอื่นๆได้รับรู้
ขณะที่แพทย์เจ้าของไข้เด็กรายที่ 2 ตรวจพบความผิดปกติชัดเจน โดยพบว่าในช่องท้องเด็กมีสารเคมีที่มีลักษณะคล้ายส่วนผสมน้ำยาล้างห้องน้ำหรือผงซักฟอก อันหมายถึงเด็กต้องกลืนกินลงไป หรือไม่ก็ต้องมีคนป้อนใส่เข้าไปในปากเด็ก
เท่ากับกลายเป็นข่าวใหญ่ บีบความรู้สึกที่ชวนเศร้าโศกของผู้คนทั่วไป เพราะไม่เคยคิดเลยว่า คนที่อ้างตัวเองว่าเป็นแม่ จะกล้าทำในสิ่งที่เลวร้ายขนาดนี้ได้ เพียงเพราะต้องการอยากจะได้เงิน และเห็นว่า เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย
หารู้ไม่ว่า ความลับไม่มีในโลก และเวรกรรมที่ก่อ ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้า แต่มาเร็วกว่าที่คิด ชาตินี้นี่แหละ
เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหา 6 ข้อหนัก รวมทั้ง "ค้ามนุษย์" แก่นางปุ๊ก คนที่ไม่มีคุณสมบัติข้อใดเลยสำหรับการเป็น "แม่" ไม่ว่าจะกับลูกบุญธรรมหรือแม้แต่กับลูกตัวเอง จากนี้ไป คือช่วงเวลาที่ต้องรอชดใช้กรรม
บทสรุปหนึ่งจากคดีนี้ การหากินกับความสงสารหรือความเลื่อมใสศรัทธาของผู้คน ยังคงหากินได้เสมอ เช่นเดียวกับผู้คนโดยทั่วไป ไม่ควรจะเชื่ออะไรง่ายๆแบบไม่ลืมลิมตา โดยละเลยไม่ตรวจสอบให้ชัดเจนเสียก่อน โดยเฉพาะยุคโลกโซเชี่ยลที่มีบทบาทอย่างถึงที่สุดในปัจจุบันนี้
อุตส่าห์ทำมาหากินเก็บหอมรอมริบแทบตาย สุดท้ายก็เอาไปให้แก๊งค์สิบแปดมงกุฎสวาปามความสุข ไม่เสียดายเงินทองบ้างหรือครับ?