“เริ่มจะมีเหตุวุ่นวายด้านชายแดนไทยกัมพูชาอีกแล้ว” เมื่อกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชายื่นหนังสือให้ผู้ว่าราชการบันเตียเมียนเจย ขอประท้วงประเทศไทยอย่างสันติ โดยให้เหตุผลว่าต้องการเข้ามาประกอบอาชีพในตลาดโรงเกลือ เพราะกำลังขาดแคลนอาหาร หากไทยไม่ยอมจะทำการปิดสะพานมิตรภาพสกัดรถขนส่งสินค้าไทยไม่ให้ข้ามไปกัมพูชาทันที
วันที่ 25 พ.ค. ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาว่าในช่วงเย็นของวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าและกรรมกรในฝั่งปอยเปต และในตลาดโรงเกลือฝั่งไทย กำลังให้ความสนใจหนังสือที่ประธานสมาคมเสริมสร้างเศรษฐกิจนอกระบบกัมพูชาแจ้งเกี่ยวกับการประท้วงสันติ ที่จะส่งเสนอให้ ผวจ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชาในวันที่ 25 พ.ค.63 นี้ ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ประชาชนชาวกัมพูชาทั้งในฝั่งปอยเปต และตลาดโรงเกลือกำลังให้ความสนใจหนังสือฉบับนั้นเป็นอย่างมาก โดยหนังสือดังกล่าว ระบุข้อความว่า กระผมขอแจ้งให้ ผวจ.บันเตียเมียนเจยทราบว่า ขณะนี้ประชาชนชาวกัมพูชาที่ประกอบอาชีพค้าขายอยู่ในตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ประเทศไทย รวมทั้งแรงงานลากรถเข็นบรรทุกสินค้าต่างๆ รถจักรยานยนต์รับจ้าง และผู้ประกอบการธุรกิจนอกระบบทั้งหมด ที่อาศัยอยู่ในกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย เห็นชอบร่วมกันจะเข้าประท้วงที่สะพานมิตรภาพไทยกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีผู้เข้าร่วมประท้วงจำนวน 1,500 คน รถเข็นลากจูงจำนวน 100 คัน รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียง 1 คัน การประท้วงในครั้งนี้จะจัดขึ้นที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทยกัมพูชา(ฝั่งกัมพูชา) ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก โดยจะเริ่มขึ้นในเวลา 6.00 น.ไปจนถึงเวลา 18.00 น.ของวันที่ 1 มิ.ย.63 ไปจนถึงวันที่ 7 มิ.ย.63
สำหรับการประท้วงครั้งนี้ประชาชนชาวกัมพูชามีข้อเรียกร้องดังนี้ 1.ขอความอนุเคราะห์ประเทศไทย อนุญาตให้ รถเข็น รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ของประชาชนกัมพูชาวิ่งเข้า-ออกบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก เพื่อเข้าไปค้าขายใน อ.อรัญประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.63 เป็นต้นไป 2.หากประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดผ่านแดนปอยเปตได้ ประชาชนกัมพูชาทั้งหมดก็จะขอความอนุเคราะห์ ผวจ.บันเตียเมียนเจย ให้กรุณาปิดจุดผ่านแดนปอยเปตอย่างถาวร เพื่อไม่ให้รถยนต์ส่งสินค้าของไทยวิ่งข้ามมาฝั่งประเทศกัมพูชาเช่นกัน
ขณะเดียวกันนายบำรุง ล้อเจริญ วัฒน์ชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับเรื่องนี้ทางหน่วยงานภาครัฐในวังหวัดสระแก้วทราบเรื่องแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนจริง โดยทางจ.สระแก้วจะได้เชิญเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการในตลาดโรงเกลือ เข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันในวันที่ 27 พ.ค. ที่จะถึงนี้