ตำรวจในฮ่องกงยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านแผนการของจีนในการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ต่อฮ่องกง โดยผู้ประท้วงหลายพันคน ซึ่งสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เดินขบวนไปตามใจกลางเมืองในวันอาทิตย์ ผู้ประท้วงเดินขบวนแม้ว่าจะมีคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้ว่า เป็นการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาตและฝืนคำสั่งห้ามชุมนุมกันเป็นจำนวนมากในที่สาธารณะตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ social distancing
ผู้ประท้วงบางคนขว้างปาสิ่งของต่าง ๆ เช่นร่มและขวดน้ำเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้ถังขยะและเศษซากอื่น ๆ ตั้งปิดถนน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประท้วงในวันอาทิตย์ก็รูปแบบคล้ายกับการประะท้วงหลายครั้งในปีที่แล้ว ที่ลงเอยด้วยการใช้ความรุนแรง และนี่ก็เป็นการส่งสัญญาณการกลับคืนสู่การประท้วงครั้งใหญ่ทำลายศูนย์กลางการเงินแห่งนี้ ซ้ำรอยปีที่แล้ว 
ตำรวจกล่าวว่า ในการประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ มีผู้ถูกจับกุมตัวแล้ว 120 คน และมีประชาชนมากกว่า 8,400 คน ถูกจับในฮ่องกงตั้งแต่การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยปะทุขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ นักการเมืองระดับสูง 200 คน จากทั่วโลก ออกแถลงการณ์ร่วมวิพากษ์วิจารณ์แผนการของจีน แถลงการณ์ร่วมดังกล่าว เรียกแผนการของจีนว่า "การโจมตีอย่างครอบคลุมต่อการปกครองตนเอง, กฎหมายและเสรีภาพพื้นฐานของฮ่องกง"
จีนต้องการผ่านกฎหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งจะห้ามมิให้มีการกระทำใด ๆ ก็ตามที่เป็นการก่อกบฏ แบ่งแยกดินแดน ปลุกระดม และบ่อนทำลายดินแดน
จีนไม่ได้หวั่นเกรงว่า กฎหมายฉบับนี้จะทำลายนักลงทุนต่างชาติในฮ่องกง ศูนย์กลางการเงินที่สำคัญ และยังประณามหลายชาติที่แทรกแซงด้วย
นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะรัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่ ให้คำมั่นสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้อย่างเต็มที่ และว่า เสรีภาพของฮ่องกงจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่มผู้ประท้วงมารวมตัวกันที่คอสเวย์ เบย์และหว่านไจ๋ ย่านการค้าและธุรกิจชื่อดัง ของฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ ตะโกนสโลแกนต่อต้านรัฐบาลและชูแผ่นป้ายต่าง ๆ
วินเซนต์ วัย 25 ปี กล่าวกับเอเอฟพีอ้างถึงกฎหมายฉบับนี้ว่า ประชาชนอาจถูกดำเนินคดีอาญาได้ด้วยการใช้คำพูดเพียงไม่กี่คำที่พวกเขาพูด หรือเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับการต่อต้านรัฐบาล