ไล่ล่า! โจรบุกเดี่ยว จี้ชิงทองกลางเมืองราชบุรี

2020-05-24 17:50:23

ไล่ล่า! โจรบุกเดี่ยว จี้ชิงทองกลางเมืองราชบุรี

Advertisement

คนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทอง ร้านทองชื่อดังกลางเมืองราชบุรี ได้สร้อยคอทองคำไป 11 เส้นก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 พ.ค. พ.ต.ท.เรวัตร ไชยสุวรรณ สารวัตรเวรสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายจี้ชิงทองร้านทองจิราวรรณ (เยาวราช) ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 48/9 ถ.เพชรเกษมสายเก่า สี่แยกต้นสำโรง ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จึงรายงานให้ พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จ.ราชบุรี พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.สส.ภ.จ.ราชบุรี และ พ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้รับทราบก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบ น.ส.อาภรณ์ มีบุญมา 40 ปี 31/1 ม.3 ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพนักงานหน้าร้านและเป็นผู้ที่ประสบเหตุ ได้เล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังด้วยอาการหวาดกลัวว่า ปกติร้านทองจะปิดวันอาทิตย์ แต่ในช่วงนี้ทางเจ้าของร้านเห็นว่าบรรยากาศมันเงียบเหงาก็เลยให้เปิดร้าน ในช่วงก่อนจะเกิดเหตุได้มีชายรูปร่างผอม เดินเข้ามาในร้านโดยสวมเสื้อคลุมสีดำ สวมหมวกแก๊ป ใส่แมสก์สีดำ ซึ่งขณะนั้นตนอยู่หน้าร้านสองคนกับเพื่อน คนร้ายได้สอบถามราคาทองก่อน จากนั้นก็ขอดูสร้อยคอทองคำเส้นละ 1 บาท ตนจึงหยิบมาให้ลูกค้าเลือกทั้งถาด คนร้ายก็เลือกลายของทองอยู่ และบอกว่าไม่ชอบลายในถาดนี้ ก่อนจะขอดูอีกเส้นที่อยู่ในตู้โชว์ ตนจึงไปหยิบมาให้ดู แต่คนร้ายก็ยังบอกว่าไม่ชอบจากนั้นก็ชักอาวุธปืนขึ้นมาแล้วพูดอะไรฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะมีแมสปิดปากอยู่ ก่อนคนร้ายจะคว้าสร้อยคอทองคำน้ำหนักจำนวน 9 เส้นๆละ 1 บาท วิ่งออกจากร้านไป ซึ่งเมื่อตนเห็นคนร้ายชักอาวุธปืนออกมาก็รีบหลบลงใต้ตู้โชว์ทองด้วยความหวาดกลัว พอลุกขึ้นมาได้คนร้ายก็ออกไปแล้ว โดยมีคนที่อยู่คลินิกทำฟันข้างๆบอกว่าคนร้ายวิ่งออกไปขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อที่จอดอยู่เลยหน้าร้านออกไปด้วยความเร็ว




จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยละเอียด เบื้องต้นทราบมีสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท หายไป 11 เส้น มูลค่าเกือบสามแสนบาท และคนร้ายยังทำทองตกที่พื้นจำนวน 2 เส้น ซึ่งในเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งเป็นความประมาทของทางร้านทองที่เปิดในช่วงวันหยุด ซึ่งทางสมาคมผู้ค้าทองนั้นได้ขอให้ทุกร้านได้หยุดขายในวันอาทิตย์ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเข้ามาก่อเหตุได้ เพราะเป็นช่วงวันหยุดที่อาจจะมีร้านค้าทั่วไปเปิดน้อย ประกอบกับทางร้านนั้นไม่ได้ทำมาตรการของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขอให้ทางร้านทองนำทองมาให้ลูกค้าดูทีละอย่าง แต่เหตุการณ์นี้ทางร้านยกมาให้ลูกดูทั้งถาด ซึ่งในถาดนั้นมีทองมากกว่า 20 เส้น จึงอาจจะเป็นสิ่งยั่วใจให้ก่อเหตุ และทางร้านยังปล่อยให้ลูกค้าที่สวมหมวก สวมเสื้อคลุมเข้ามาในร้านโดยไม่ได้มีความระมัดระวัง ทั้งที่มีข้อห้ามของทุกร้านทองที่ห้ามบุคคลที่สวมใส่ลักษณะแบบนี้เข้ามาในร้าน

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบเพื่อหาเบาะแสคนร้ายจากกล้องวงจรปิดของร้านซึ่งมีทั้งหมด 8 ตัว รวมทั้งจะตรวจสอบกล้องวงปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีเพื่อติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป