โมฮัมหมัด ซูบาอีร์ วิศวกรหนุ่มวัย 24 ปี หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารตกในปากีสถาน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้ว 97 ศพ เล่าย้อนนาทีเฉียดตายว่า ตัวเขากระโดดออกจากซากเครื่องบินที่ไฟกำลังลุกไหม้ หลังจากเครื่องบินตกลงในย่านชุมชน
เครื่องบินโดยสารของสายการบินปากีสถาน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ส (PIA) ประสบอุบัติเหตุตกลงในหมู่อาคารสูงย่านที่พักอาศัยของประชาชนในช่วงบ่ายวันศุกร์ หลังจากเครื่องยนต์ทั้ง 2 เครื่องขัดข้อง ขณะใกล้ถึงท่าอากาศยานนานาชาติจินนาห์ ในนครการาจี
ปีกของเครื่องบินเฉี่ยวกับหลังคาตึก ส่งผลให้เกิดไฟไหม้และกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นสู่อากาศ ก่อนที่เครื่องบินจะตกลงสู่ถนน ทำให้ปฏิบัติการกู้ภัยต้องใช้เวลาล่วงเลยเข้าสู่กลางคืน
ทั้งนี้ เที่ยวบินพาณิชย์ในปากีสถาน เพิ่งกลับมาบินให้บริการได้เพียงไม่กี่วัน ก่อนถึงเทศกาลวันตรุษ "อีดิลฟิฏรี" หรือ วันเฉลิมฉลองการออกศีลอดของชาวมุสลิมทั่วโลก เป็นเทศกาลฉลองการสิ้นสุดของการถือศีลอด รอมะฎอน หลังเครื่องบินจอดแช่อยู่สนามบินระหว่างมาตรการล็อคดาวน์ควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19
"หลังเครื่องบินตก และผมตั้งสติได้ ผมเห็นเปลวไฟในทุกหนทุกแห่ง และไม่เห็นผู้โดยสารคนอื่นเลย" โมฮัมหมัด ซูบาอีร์ กล่าวจากเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลผ่านคลิปวิดีโอ ที่เผยแพร่ทางโซเชียล มีเดีย
"มีทั้งเสียงเด็ก, ผู้ใหญ่และคนแก่ ร้องกันระงม เสียงร้องได้ยินไปทั่วและทุกคนก็พยายามที่จะเอาตัวรอด ผมถอดเข้มขัดนิรภัยออกจากเบาะนั่ง และมองเห็นแสงไฟ จึงพยายามตรงไปหามัน จากนั้นก็กระโดดออกมา"
เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยซูบาอีร์ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้ อาการทรงตัว
สายการบินเปิดเผยชื่อผู้รอดชีวิตอีกคน คือนายซาฟาร์ มาซุด ประธานธนาคาร แบงก์ ออฟ ปันจาบ
กระทรวงสาธารณสุขของจังหวัดซินด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองการาจี เมืองท่าทางตอนใต้ของประเทศ ยืนยันเมื่อวันเสาร์ว่า เจ้าหน้าที่เก็บกู้ศพออกมาจากซากเครื่องบินและในจุดเกิดเหตุได้แล้ว 97 คน
จนถึงขณะนี้ ระบุตัวตนได้อย่างน้อย 19 คน ในขณะเดียวกัน ก็กำลังมีการตรวจดีเอ็นเอที่มหาวิทยาลัยการาจี เพื่อตรวจหาอัตลักษณ์บุคคลศพอื่น ๆ
โรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง รายงานก่อนหน้านี้ว่า ได้รับศพของประชาชนที่เสียชีวิตบนพื้นไว้ด้วย
พิบัติภัยทางอากาศครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่ปากีสถานเตรียมฉลองเทศกาล "อีดิลฟิฎรี" และเริ่มต้นวันอีด ซึ่งจะมีชาวมุสลิมจำนวนมากเดินทางกลับบ้านในเมืองและหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อไปเยี่ยมญาติ
โฆษกของพีไอเอ กล่าวว่า ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศขาดการติดต่อกับเครื่องบิน ซึ่งเดินทางจากเมืองลาฮอร์ ไปยังการาจี หลังเวลา 14.30 น.ของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 16.30 น.ตามเวลาในไทย นักบินขอความช่วยเหลือทางโทรศัพท์ หลังประกาศว่า เครื่องยนต์ขัดข้อง ตามการบันทึกเสียงสนทนาที่ยืนยันโดยสารการบิน
อาร์ชัด มาห์มูด มาลิก ประธานบริหารของพีไอเอ ระบุว่า เครื่องบินแอร์บัส เอ320 ลำนี้ เป็นหนึ่งในเครื่องบินที่มีความปลอดภัยที่สุด แต่ในทางเทคนิคแล้ว ทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้เสมอ พร้อมให้คำมั่นว่าจะทำการสอบสวนอย่างเต็มที่
ขณะที่ กูลัม ซาร์วาร์ ข่าน รัฐมนตรีการบินพลเรือน กล่าวว่า กัปตัน ซัจจัด กุลล์ เป็นนักบินอาวุโสของเอ320 ที่มีประสบการณ์การบินอย่างโชกโชน
เครื่องบินลำนี้ เริ่มเข้าประจำการให้บริการครั้งแรกในปี 2547