พปชร.ไม่ปรับไม่จบ บิ๊กป้อมเจอแรงยุนั่ง หน.พรรค

2020-05-21 16:20:33

พปชร.ไม่ปรับไม่จบ บิ๊กป้อมเจอแรงยุนั่ง หน.พรรค

Advertisement

พลังประชารัฐไม่จบจริงๆ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ไม่มีตำแหน่งใดๆในพรรค ไม่ได้เป็นกระทั่งสมาชิกพรรค แต่กลับถูกมองว่าเป็นผู้มีบารมีมากที่สุดในพรรค

จะยืนยันผ่านนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคในวันที่เรียกเข้าพบพร้อมนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาฯพรรคที่ทำเนียบ จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆใน ครม. และให้ทำงานที่เคยทำต่อไป

แต่ข่าวความเคลื่อนไหว ซึ่งสะท้อนความแตกแยกชิงอำนาจใน พปชร. ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคยังมีปรากฎแบบรายวัน

ทั้งข่าวลือกรรมการบริหารพรรคยื่นหนังสือลาออกแล้วเกือบครบครึ่งหนึ่ง ข่าวเสี่ยแฮ้งค์ นายอนุชา นาคาศัย ถูกผลักดันแทนนายสันติ พร้อมพัฒน์ ให้ไปนั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค ข่าวนายอุตตม ถอดใจลาออกจากหัวหน้าพรรค และล่าสุดกลุ่ม 4 กุมารจะแยกตัวไปตั้งพรรคสร้างไทย โดยจะดึงนักธุรกิจจากกลุ่มสามารถเทเลคอมมาร่วมทีมด้วย

ทำเอาแกนนำอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรคต้องออกโรงปฏิเสธข่าวแบบรายวัน รวมทั้งนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ 2 เป้าหมายใหญ่ที่จะโดนเขี่ยจากเก้าอี้ใหญ่ในพรรค ยืนยันไม่มีการลาออก และยังอยู่กับ พปชร. ต่อไป

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์สำคัญที่จะสามารถสยบเรื่องแย่งชิงตำแหน่งในพรรคอย่างได้ผลก็ยังไม่เกิดขึ้น

นั่นคือการพบปะกันระหว่างบิ๊กป้อมกับบิ๊กตู่อย่างเป็นเรื่องเป็นราว แล้วคนใดคนหนึ่งหรือทั้ง 2 คน พูดปฏิเสธเรื่องนี้อย่างชัดเจนกับสื่อ

เมื่อไม่มีเหตุการณ์ที่ว่าเกิดขึ้น ทั้งที่สามารถทำได้ ยิ่งทำให้ความสงสัยกังขาใน พปชร. ยิ่งถูกจับตาและมีเสียงวิพากษ์มากขึ้น เพราะน่าจะมีนัยบางประการเคลือบแฝงอยู่ อีกทั้งโดยธรรมชาตินักการเมือง มักมีอาเจตนาหรือวาระซ่อนเร้นเคลือบงำอยู่เสมอ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังต้องการอยู่ในอำนาจต่อไป ย่อมต้องคำนึงถึงหลักประกันการดำรงอยู่อย่างมั่นคง และคนที่จะทำหน้าที่นี้ได้ดีแบบมองตาก็รู้ใจ ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับ พล.อ.ประวิตร

หรืออาจห่วงกังกลว่า หากผ่นปรนโอนอ่อนตามนักการเมืองแบบนักเลือกตั้งง่ายไป อาจมีผลต่อคะแนนนิยมในรัฐบาล ที่กำลังถูกจับตาใกล้ชิด และอาจเป็นช่องทางนำไปสู่การแสวงหาประโยชน์ตามสูตรสำเร็จของนักการเมืองเลือกตั้ง ที่ต้องการเข้าไปเป็นรัฐมนตรีใน ครม.ให้ได้ โดยเริ่มต้นจากตำแหน่งใหญ่ๆในพรรคก่อน อย่างที่เห็นความพยายามอยู่ขณะนี้

ขณะเดียวกัน ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่พยายามใช้วิธีเข้าหาและโน้มน้าวบิ๊กป้อมว่ามีบารมีและเหมาะสมที่สุดสำหรับการขยับขึ่นไปนั่งในตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อคุมอำนาจเบ็ดเสร็จในพรรคแทนที่จะนั่งตำแหน่งลอยๆอย่างประธานยุทธศาสตร์พรรค ที่เป็นเพียงตำแหน่งอุปโลกน์

รวมทั้งชี้ให้เห็นถึงผลดีที่จะมีต่อรัฐบาลบิ๊กตู่ คือ พปชร. ที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลแข็งโป้กกลมเกลียว กระทั่งบิ๊กป้อมเห็นดีเห็นงามตามไปด้วย กระทั่งมีข่าวช่วงหลังๆว่า บิ๊กป้อมเองก็ไม่เคยปฏิเสธข่าวจะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเอง

ประกอบกับมาตรการฟื้นฟูเยียวยาโควิด 29 ที่ ครม. ให้ความเห็นชอบให้ออก พรก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเงินมหาศาล และจะมีงบประมาณภายใต้การบริหารจัดการของกระทรวงการคลังมากถึง 4 แสนล้านบาท ยิ่งกระตุ้นความอยากของนักการเมืองเลือกตั้งหวังไปนั่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงนี้มากขึ้นไปอีก

การปล่อยข่าวและโยนหินถามทาง รวมทั้งกรุยทางสู่การเปลี่ยนแปลงในทางปฏิบัติอย่างเต็มที่ในพรรคจึงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ยุติสร่างซา

ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ว่า กิเลสและความอยากของคนที่สามารถยุติหรือเดินหน้าเรื่องยุ่งเหยิงในพรรคนี้ได้ จะมีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง