“อำพัน” ไซโคลนมรณะ ถล่มอินเดีย-บังกลาเทศ ราบ

2020-05-21 06:00:10

“อำพัน” ไซโคลนมรณะ ถล่มอินเดีย-บังกลาเทศ ราบ

Advertisement


ซูเปอร์ไซโคลน “อำพัน” ไซโคลนกำลังแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี พัดถล่มบังกลาเทศและภาคตะวันออกของอินเดียเมื่อวันพุธ ด้วยความแรงเทียบเท่าเฮอริเคนระดับ 3 เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลม 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมที่จุดศูนย์กลาง 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้เกิดคลื่นสูงซัดเข้าฝั่ง และสร้างความเสียหายอย่างหนักตลอดเส้นทางที่พายุลูกนี้เคลื่อนผ่าน กระแสลมแรงและฝนตกหนัก น้ำท่วมหลายหมู่บ้านและหลายเมืองบริเวณชายฝั่งทะเล เสาไฟฟ้า, ต้นไม้หักโค่นระเนระนาด และน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 15 คน ประชาชนมากกว่า 3 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในบังกลาเทศ อพยพไปอยู่ในสถานที่พักพิงชั่วคราวก่อนพายุพัดเข้าถล่ม ซึ่งเป็นการอพยพครั้งใหญ่ที่ท้าทายการระบาดของไวรัสโควิด-19 และสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น

มามาตา บาเนอร์จี มุขมนตรีของรัฐเวสต์ เบงกอล กล่าวกับผู้สื่อข่าวในช่วงเย็นวันพุธว่า ไซโคลนมรณะลูกนี้ พัดสะพานที่เชื่อมเกาะต่าง ๆ ของอินเดียกับแผ่นดินใหญ่พังหลายแห่ง และยังทำให้หลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้และการให้บริการโทรศัพท์ถูกตัดขาด ภาพของความเสียหายจะชัดเจนมากขึ้นในวันพฤหัสบดี



บาเนอร์จี ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านและเป็นหนึ่งในผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดียอย่างเผ็ดร้อน กล่าวอีกว่า เรากำลังเผชิญกับวิกฤตรุนแรง 3 อย่างพร้อมกัน คือการระบาดของไวรัสโควิด-19, แรงงานอพยพหลายหมื่นคน ซึ่งกำลังเดินทางกลับบ้านจากมาตรการล็อคดาวน์ และขณะนี้ ต้องพบกับความเลวร้ายของไซโคลนกำลังแรงอีก แต่สถานการณ์ไซโคลนสร้างความวิตกกังวลมากกว่าการระบาดของไวรัส เราไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไร เกือบทุกสิ่งทุกอย่างในหมู่บ้านชายฝั่งทะเล ถูกทำลายแทบหมดสิ้น นอกจากนี้ มาตรการคุมเข้มเพื่อหยุดยั้งการระบาดของไวรัส กำลังเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงต่อความพยายามบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน การระบาดของไวรัสและมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ social distancing ทำให้การอพยพประชาชนจากที่ราบต่ำเต็มไปด้วยความยากลำบากสำหรับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากต้องป้องกันการระบาดของไวรัสเช่นกัน ขณะที่ สถานที่พักพิงชั่วคราวก็ไม่สามารถรองรับได้เต็มความจุ

เฉพาะในบังกลาเทศ เจ้าหน้าที่ยืนยันมีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน รวมทั้งเด็กชายวัย 5 ขวบ และชายวัย 75 ปี ซึ่งทั้ง 2 คน ถูกต้นไม้ใหญ่ล้มทับ และมีอาสาสมัครป้องกันภัยฉุกเฉินคนหนึ่งจมน้ำเสียชีวิตด้วย



ชามสุดดิน อาเหม็ด ผู้อำนวยการสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของบังกลาเทศ กล่าวว่า ไซโคลนลูกนี้ พัดถล่มเมืองซัตกีรา ชายฝั่งทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ ด้วยกำลังลม 151 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประชาชนประมาณ 3 ล้านคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และพื้นที่ส่วนใหญ่ของบังกลาเทศ ประเทศยากจนที่มีประชากร 168 ล้านคน ต้องเผชิญกับน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนัก

แม้ว่าไซโคลนลูกนี้ จะอ่อนกำลังลงขณะมุ่งหน้าสู่บังกลาเทศ แต่เจ้าหน้าที่ก็เตือนว่าจะยังเกิดความเสียหายอย่างหนักตามเส้นทางที่พายุเคลื่อนตัวผ่าน ทั้งต้นไม้หักโค่นและบ้านเรือนในพื้นที่ของทั้ง 2 ประเทศ พังถล่ม คลื่นสูง หรือ storm surge สูงถึง 5 เมตร ซัดชายฝั่ง ซึ่งตลอดเส้นทางเลียบชายฝั่ง 25 กิโลเมตร หลายเมืองถูกน้ำท่วมสูง ซึ่งรวมทั้งเมืองโกลกาตา ในรัฐเวสต์ เบงกอลของอินเดีย ที่มีรายงานว่าบ้านเรือนประชาชนประมาณ 5,500 หลังได้รับความเสียหาย

ไซโคลน “อำพัน” เริ่มต้นพัดถล่มซุนเดอร์บันส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชายเลนรอบหมู่บ้านพรมแดนอินเดีย-บังกลาเทศ ที่มีประชากร 4 ล้านคนในช่วงบ่ายวันพุธ ก่อนที่จะมุ่งหน้าขึ้นเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือเข้าถล่มเมืองโกลกาตา เมืองประวัติศาสตร์ที่มีประชากร 14.7 ล้านคน และคาดว่า ไซโคลน “อำพัน” จะเคลื่อนตัวมุ่งหน้าเข้าแผ่นดินใหญ่บังกลาเทศในวันพฤหัสบดี และภูฎาน เป็นประเทศต่อไป

เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อาจทำให้เกิดฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนได้ 300 มิลลิเมตร ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่และดินถล่ม



“อำพัน” เป็นซูเปอร์ไซโคลนลูกแรกที่ก่อตัวขึ้นในอ่าวเบงกอล ตั้งแต่ปี 2542 แม้ว่าจะอ่อนตัวลงแล้วในขณะนี้ แต่ก็ยังคงเป็นไซโคลนที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูงมาก

บริเวณพรมแดนของ 2 ประเทศนี้ มีประชากรรวมกัน 58 ล้านคน มีหลายชุมชนถือว่ามีความอ่อนแอที่สุด เป็นชุมชนชาวประมงยากจนในซุนเดอร์บันส์ และยังมีผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮีนจาอีกกว่า 1 ล้านคน อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่แออัดในเมืองค็อกซ์บาซาร์ ประเทศบังกลาเทศ