ตำรวจนำตัว 2 แม่ลูกด่าทอตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ส่งฟ้องศาล แม่ยันลูกถูกยั่วยุทำให้โมโห ขณะที่พ่อของวัยรุ่น ขู่เอาผิดคนเผยแพร่คลิปประจาน ชี้ทำร้ายครอบครัว ลั่นหากคนลงคลิปเป็นตำรวจก็ต้องดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 19 ก.ย. พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ นำตัว 2 แม่ลูก ที่ปรากฏในคลิปไม่พอใจตำรวจจราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ ออกใบสั่ง และแสดงกิริยาถ่มน้ำลายใส่พร้อมกับท้าต่อยตำรวจ มาส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้ หลังเมื่อวันที่ 18 ก.ย. แม่ลูกได้เข้าพบ พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ และ ร.ต.อ.อภิชัย ศรีสังข์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ร.ต.อ.อภิชัย กล่าวว่า ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายเอก (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วน น.ส.สราวรรณ หว่างตาล อายุ 38 ปี ผู้เป็นมารดา ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ เบื้องต้นทั้งคู่รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
น.ส.สราวรรณ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว ลูกชายของตนเองเคยถูกตำรวจ สน. ทุ่งมหาเมฆ เรียกจับในข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่มีใบขับขี่ ระหว่างการขี่จักรยานยนต์นำของมาส่งให้ตนไปขาย ส่วนวันที่เกิดเหตุครั้งล่าสุดที่เป็นประเด็น ลูกชายของตนขี่รถจักรยานยนต์มาส่งของให้ตนเหมือนเดิม และถูกตำรวจเรียกจับในข้อหาไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน และมีเสียงวอเข้ามาให้ตรวจค้นร่างกายลูกชายของตน ว่ามียาเสพติดซุกซ่อนหรือไม่ ต่อมาตำรวจที่เคยมีปากเสียงกันเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เข้ามาสมทบ และมีการพูดจายั่วยุ และมีการบันทึกคลิปดังกล่าว ซึ่งการบันทึกคลิป ทำให้ลูกชายของตนเกิดความโมโหที่สุด
น.ส.สราวรรณ กล่าวต่อว่า หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียลฯ รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าตำรวจจะเล่นแรงขนาดนี้ ถึงขั้นนำคลิปไปประจาน เพื่อเล่นงานตนและลูกชาย และมีผู้คนในสังคมโซเชียลฯ เข้ามาด่าทอ ซึ่งคิดว่าตำรวจจะนำคลิปไปใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับตนและลูกชายเท่านั้น
ด้านนายธวัชชัย แซ่โง้ว ผู้เป็นบิดา ระบุว่า จะดำเนินคดีกับผู้โพสต์คลิปลงโลกโซเชียลฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะถือว่าทำร้ายตนและครอบครัว โดยการประจานต่อสาธารณชน หากคนลงคลิปเป็นตำรวจก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนนายเอก (นามสมมติ) ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอารมณ์โมโหที่ถูกยั่วยุ และขอสังคมอย่าตัดสินเพียงคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไป เพราะมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และอยากฝากเป็นอุทาหรณ์ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ใดอะไรขึ้น อย่าใช้อารมณ์ เพราะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร