สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในบราซิล เลวร้ายสุด วันอังคารวันเดียวทำสถิติเสียชีวิตสูงสุดกว่า 1,000 คน รวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ อยู่ที่กว่า 17,900 คนแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเริ่มขุดหลุมศพเพิ่มอีก
กระทรวงสาธารณสุขของบราซิล แถลงว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่จากไวรัสโควิด-19 ทำสถิติสูงสุดในวันเดียว 1,1179 คนเมื่อวันอังคาร นับเป็นครั้งแรกที่บราซิลมีผู้เสียชีวิตรายวันมากกว่า 1,000 คน จากสถิติเดิม 881 คน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา รวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศขณะนี้อยู่ที่ 17,971 คน และบราซิลแซงหน้าอังกฤษเมื่อวันจันทร์ เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐและรัสเซีย โดยบราซิลยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 17,408 คนในวันอังคาร รวมผู้ติดเชื้อเป็น 271,628 คน
ประธานาธิบดีจาอีร์ โบลโซนาโร พันธมิตรด้านอุดมการของทรัมป์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างเรื่องการจัดการแก้ปัญหาการระบาดของไวรัส-19 เช่นกรณีที่เขาออกมาคัดค้านมาตรการล็อคดาวน์ ซึ่งเขามองว่าเป็นการทำลายเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง นายโบลโซนาโร กล่าวว่า เอดูอาร์โด ปาซูเอลโล นายพลของกองทัพที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ รักษาการรัฐมนตรีสาธารณสุขของบราซิล จะออกคำแนะนำใหม่เกี่ยวกับการขยายการใช้ยาต้านมาลาเรีย “คลอโรควีน” เพื่อใช้ป้องกันไวรัสโควิด-19 ในวันพุธนี้
นายเนลสัน เทช ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังถูกกดดันให้ลงนามในคู่มือแนะนำการใช้ยา “คลอโรควีน” ป้องกันไวรัส ทำให้เขาเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขคนที่ 2 ที่ต้องพ้นตำแหน่งจากปัญหาความขัดแย้งกับประธานาธิบดีโบลโซนาโร เกี่ยวกับการแก้ปัญหาการระบาดของไวรัส ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน
นายโบลโซนาโร กล่าวเพิ่มเติมว่า แม่ของเขาอายุ 93 ปีแล้ว และเขาก็ให้ยาคลอโรควีนติดตัวเธอไว้ตลอดเวลา หากต้องการก็รับประทานได้ทันที
ส่วนทรัมป์ ซึ่งประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า เขารับประทานยาคลอโรควีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันอังคารว่า เขากำลังพิจารณาการห้ามเดินทางจากบราซิล เขาบอกว่า ไม่ต้องการให้ประชาชนมาที่นี่และทำให้ประชาชนของเราติดเชื้อ แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการให้ประชาชนในบราซิลล้มป่วยด้วย สหรัฐส่งเครื่องช่วยหายใจไปช่วยบราซิล ซึ่งกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก
ขณะเดียวกัน เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในบราซิล ยังเลวร้าย ผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่บราซิลต้องเริ่มขุดหลุมศพใหม่เพิ่มอีกในสุสานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลในเมืองเซาเปาโล เมืองใหญ่สุดของประเทศในวันอังคาร หนึ่งวันหลังจากบราซิลแซงหน้าอังกฤษ เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขบราซิล เมืองเซาเปาโลยังคงเป็นเมืองที่มีการระบาดรุนแรงที่สุด มีผู้ติดเชื้อสูงถึง 63,066 คน และเสียชีวิต 4,823 คน ตามมาด้วยนครริโอเดอจาเนโร เป็นอันดับ 2 มีผู้ติดเชื้อ 26,665 คน และเสียชีวิต 2,852 คน
ประธานาธิบดีโบลโซนาโร ต้องสูญเสียคะแนนนิยมจากกรณีการรับมือกับการระบาดของไวรัสได้อย่างไร้ประสิทธิภาพ แต่เขาก็ยังคงรักษาคะแนนนิยมจากกลุ่มผู้สนับสนุนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น