จากใจผู้เขียน "จิตติ" ขอโทษเพราะประสบการณ์น้อย "คั่นกู" จึงเกิดดราม่า

2020-05-19 15:50:11

จากใจผู้เขียน "จิตติ" ขอโทษเพราะประสบการณ์น้อย "คั่นกู" จึงเกิดดราม่า

Advertisement

#คั่นกูขอโทษ แฮชแท็กที่ไม่มีแฟนนิยายคนไหนอยากให้เกิดขึ้น อนึ่งจากใจผู้เขียน "จิตติ" รับ ประสบการณ์น้อยทำให้เกิดดราม่า "เพราะเราคู่กัน" หลายจุดต้องปรับปรุง ...



ผู้แต่งนิยายชื่อดัง #คั่นกู ทวีตขอโทษทำผู้อ่านผิดหวัง หลังมีประเด็นเหยียดเพศ ความรุนแรงเรื่องเพศในนิยาย ถึงแม้ไม่มีส่วนเขียนบทโทรทัศน์ แต่ต้องขอรับผิดชอบ เผยขณะเขียนมีประสบการณ์น้อย จึงขาดการตระหนักประเด็นสังคม LGBTQ






ก็เป็นอันปิดฉากอำลาจอไปแล้ว สำหรับ ซีรีส์วายที่โด่งดังราวกับพลุแตก "เพราะเราคู่กัน 2gether The Series" (15 พ.ค.63) ที่ส่งให้นักแสดงนำหน้าใหม่ทั้งสองคน "ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี" และ "วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร" เป็นที่รู้จักของแฟนคลับทั้งในและนอกประเทศ ยอดฟอลโลว์พุ่งกระเด้งกระดอนจากหลักหมื่นขึ้นเป็นล้านเพียงไม่กี่วัน จนเป็นกระแสติดเทรนด์ทวิตเตอร์โลกตลอดทุกสัปดาห์ แถมแฟนๆ ทั่วโลกระดมพลังรีทวีตถล่มทลายฟ้าทุกคืนวันศุกร์ซึ่งเป็นวันออกอากาศของซีรีส์คั่นกูเรื่องนี้ 





แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ระหว่างการดำเนินเรื่องของคั่นกู ก็มีดราม่าเล็กๆ น้อยๆ แทรกอยู่แทบทุกๆ สัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาเนื้อหาของซีรีส์ไม่ตรงตามที่นิยายเขียนเอาไว้ บางทีถูกดัดแปลงไปตามทีมผู้เขียนบท จึงอาจเป็นข้อถกเถียงกันบ้างเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเสพซีรีส์วายเรื่องนี้ แต่จากตอนจบของซีรีส์ก็กลับเกิดเรื่องราวดราม่าขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อแฟนๆ ซีรีส์ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในหลายๆ ฉาก เช่น เพลง "ตกลงฉันคิดไปเองใช่ไหม" ที่ "สารวัตร" ต้องร้องเพื่อง้อ "ไทน์" ในตอนท้ายนั้น เนื้อหาเพลงกลับเป็นแสดงถึงการผิดหวังจากความรัก ถูกหักอก และ การกระทำของตัวละครที่คาแรกเตอร์เปลี่ยนไป มีความแตกต่างจากเนื้อเรื่องในก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา จนทำให้อรรถรสตอนจบของซีรีส์ลดลงอย่างสิ้นเชิง รวมไปถึงทัศนคติของตัวละครเกี่ยวกับการมองเพศที่สาม รสนิยมทางเพศที่แตกต่าง ไปจนถึงการเหยียดเพศอีกด้วย ซึ่งผู้ชมบางส่วนที่ได้ชมถึงกับโพสต์ว่ารู้สึกผิดหวังในตอนจบของซีรีส์เรื่องนี้ 





เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ล่าสุด "JittiRain" ผู้เขียนซีรีส์ "เพราะเราคู่กัน" ได้ออกมาชี้แจงผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุว่า

"เกี่ยวกับประเด็นดราม่าเพราะเราคู่กัน #คั่นกู ในนิยายค่ะ" ประเด็นดราม่าเกี่ยวกับเพราะเราคู่กันที่เราเขียนเราต้องขอแจ้งว่าด้วยวัยประสบการณ์งานที่เสพและมีอิทธิพลสำหรับตัวคนเขียนเมื่อ 5 ปีก่อนมันส่งผลให้เราไม่ได้ตระหนักถึงหลากหลายประเด็น จนมองข้ามความรับผิดชอบไป ซึ่งช่วงหลังมานี้เราเริ่มปรับเปลี่ยนหลาย ๆ ส่วนในงานเขียนของเราเสมอ แน่นอนว่ามันคงมีจุดผิดพลาดอยู่บ้าง แต่ก็พยายามอย่างยิ่งในการแก้ไขรวมถึงนำเสนอมุมมองของนิยายในด้านที่ดีขึ้นกว่า แต่ก่อนส่วนประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นเราขอชี้แจงและน้อมรับความผิดพลาดเพื่อแก้ไขต่อไปค่ะ



-ฉาก NC ที่มีความรุนแรงยอมรับว่า ณ ช่วงเวลานั้นที่เขียนไม่มีความคิดเอะใจเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ควรตระหนัก คิดอย่างเดียวว่าอยากเขียนอะไรก็เขียน กลุ่มเป้าหมายเราเล็กมาก โลกเราไม่เปิดกว้างพอ งานก็ได้รับอิทธิพลมาจากทุกอย่างที่เสพในเวลานั้น (ในยุคสมัยที่นิยายข่มขืนแล้วรักเป็นที่นิยม) และเรารู้สึกเสียใจทุกครั้งเมื่อกลับมาอ่านงานที่เราเคยเขียนในอดีต



-ประเด็นเหยียดเพศ harassment เราไม่มีเจตนาที่จะส่งสารไม่ดีออกไป แต่ก็ไม่สามารถพูดได้ เพราะมันถูกเขียนออกมาจริงๆ เพราะเราคิดน้อยไป เหตุปัจจัยก็มาจากเหตุผลด้านบนที่บอกไว้ในตอนแรกค่ะ

-ประเด็นผู้หญิงมีเมนแล้วงี่เง่าที่คนอ่านถ่ายมาความจริงแล้วเราตั้งใจจะรีเลตถึงแฟนของตัวละครไทน์คนหนึ่ง ที่หงุดหงิดเมื่อมีประจำเดือนในบทแรก แต่ในตอนจบ (บทสุดท้าย) เราได้กลับมาพูดถึงคนคนนี้อีกรอบ ซึ่งการเขียนที่กำกวมส่งผลให้ภาพที่นิยายมองผู้หญิงเป็นไปในแง่ไม่ดี ความจริงประเด็นนี้มันไม่ควรถูกเขียนขึ้นตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นความผิดของทางคนเขียนเอง ที่ไม่ได้กรองเนื้อหาและลบออกไปตั้งแต่บทแรก



-การรุมทำร้ายกรีนการวางยาตัวละคร ไม่ได้ถูกเขียนลงไปในนิยาย แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังมีส่วนในการรับผิดชอบต่อผลงานไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหนก็ตามอยู่ดี



-บทในซีรีส์ทางเราไม่ได้มีส่วนร่วมในการเขียนค่ะ แต่มีคุยเรื่องคาแร็กเตอร์ของตัวละครหลักที่เราอยากนำเสนอมุมมองที่ดีขึ้นจากนิยาย

-ช่วงเวลาที่ตัดสินใจขายนิยายเพื่อทำซีรีส์เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ตัวเราไม่ได้มองเห็นจุดบกพร่องมากนักเราจึงตัดสินใจขายไปโปรเจ็กต์เริ่มมายาวนานแล้วแต่ก็หยุดชะงักไปดังนั้นไม่ใช่เพราะตัวเราเองไม่เห็นแก่ส่วนรวมที่อยากจะขายอะไรก็ขาย แต่เราในเวลานั้นด้อยประสบการณ์เกินกว่าจะมองเห็นจุดผิดพลาดมหาศาลในงานของตัวเอง



ยังมีอีกหลากหลายประเด็นที่ไม่ถูกพูดถึง แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้เราน้อมรับคำผิดและพร้อมจะแก้ไขในงานถัดๆ ไปนะคะ เพราะเชื่อว่าทุกคนเคยผิดพลาดและเราทุกคนพัฒนาได้ เราจึงหวังว่าจะได้รับโอกาสให้แก้ตัวในครั้งต่อไปค่ะ "ทุกวันนี้เราปรึกษาเพื่อนเสมอนะคะ ทั้ง LGBTQ และเพื่อนชายหญิง ให้เค้าช่วยดูเนื้อหาให้ เพราะบางทีเราก็ไม่รู้จริงๆ ว่านี่เรียกว่าการ harassment นะ หรือสิ่งนี้มันเซนสิทีฟมาก เราคิดว่าตัวเองคงไม่มีวันทำเรื่องไม่ผิดพลาดอีกเลย แต่จะพยายามอย่างถึงที่สุดให้มันดีขึ้นค่ะ"...