“วอชด็อก” แจ้งความอุ้มฆ่า “เตี้ย มช.” ชี้! ทำกันเป็นทีม

2020-05-18 18:05:24

“วอชด็อก” แจ้งความอุ้มฆ่า “เตี้ย มช.”  ชี้! ทำกันเป็นทีม

Advertisement

“วอชด็อก” แจ้งความทารุณกรรมสัตว์ ชี้ทำกันเป็นทีมงานอุ้มฆ่าเจ้าเตี้ย ด้านตำรวจรับคดีพร้อมหาพยานหลักฐาน

สำหรับการตายของเจ้าเตี้ย สุนัขเพศผู้อายุ 8 ปี ขวัญใจนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังหายตัวไปไร้วี่แววตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งช่วงวันที่ 7 พ.ค. มีชาวบ้านพบซากเจ้าเตี้ยถูกนำมาทิ้งไว้ริมป่าละเมาะข้างทาง บริเวณถนนพระนาง หลังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ต.ช่างเคี่ยน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาทางชุดสืบสวนสภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่าคนที่พาเจ้าเตี้ย ออกจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คือ ส.ต.ท.คนหนึ่งสังกัด ตชด. ซึ่งได้ให้การรับสารภาพว่าตั้งใจพาเจ้าเตี้ย ออกไปนั่งรถเล่นแต่เกิดอุบัติเหตุรถทับทำให้เจ้าเตี้ยเสียชีวิต ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 พ.ค. ที่ห้องประชุมใหญ่ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ. กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก ตัวแทนมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT พร้อมชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน รวมถึงผู้บังคับบัญชาจาก ตชด. ได้เข้าร่วมประชุมในคดีการเสียชีวิตของเจ้าเตี้ย สุนัข เซเล็บชื่อดัง โดยในที่ประชุมได้มีการเชิญตัว ส.ต.ท. คนที่พาเจ้าเตี้ย ออกจาก มช. และพาไปขับรถเล่นจนเสียชีวิต มาพูดคุยก่อนนำตัวแยกเข้าห้องสอบสวน จากนั้นชุดทำงานได้ออกพื้นที่ไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมที่จุดเกิดเหตุโดยมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย




ภายหลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมงพ.ต.อ. กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือกเปิดเผยว่าวันนี้มีการเชิญทุกฝ่ายมาประชุม โดยมีการพูดคุยถึงคำสารภาพของคนที่พาเจ้าเตี้ย ออกไปจนเสียชีวิต ซึ่งทางมูลนิธิฯ ก็ได้ขอแจ้งความดำเนินดคีข้อหาทารุณกรรมสัตว์ แก่คนที่พาเจ้าเตี้ย ออกไป ทางเราก็รับเป็นคดีไว้ จากนั้นก็จะดำเนินการสืบสวนสอบสวน หาพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดตามข้อกฎหมาย คงต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งสำคัญที่สุดคือหาหลักฐานให้ได้ว่าเข้าข่ายทารุณ หรืออุบัติเหตุกันแน่ โดยจะรวบรวมจากกล้องวงจรปิด พยานแวดล้อม บาดแผลที่ทำให้เสียชีวิตซึ่งตรงนี้่ต้องสอบถามผู้ชันสูตร ส่วนที่ว่าหลายฝ่ายกังวลว่าทำกันเป็นขบวนการอุ้มฆ่าหมา ตรงนี้ทางตำรวจก็จะทำการสืบสวน เพราะทุกอย่างต้องทำตามพยานหลักฐานที่มีเท่านั้น เพราะคนที่พาเจ้าเตี้ย ออกไปก็รับสารภาพว่าพาไป แล้วเกิดอุบัติเหตุเอง ซึ่งข้อหาทารุณกรรมสัตว์ก็มีความผิดจำคุกไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากรวบรวมพยานหลักฐานแล้วเราก็จะมีการแจ้งต้นสังกัด ให้ทราบเพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป

ด้าน น.ส.ณภัทร นิธิวรภาส ตัวแทนมูลนิธิ วอชด็อก เปิดเผยว่า จากที่มีการพูดคุยกับคนที่พาเจ้าเตี้ย ไปเราพบข้อพิรุจหลายอย่าง ซึ่งแม้เขายอมรับว่าพาไป เกิดอุบัติเหตุเจ้าเตี้ยโดดลงจากรถ แล้วล้อหลังทับแล้วตาย ซึ่งความเป็นจริงไม่น่าเป็นไปได้ลักษณะนี้ อีกทั้งจากภาพวงจรปิดก็พบว่าคนที่พาเจ้าเตี้ยออกไปกับ คนที่ขับพาเจ้าเตี้ย เข้าซอยถนนที่พบศพ แม้ใช้รถคันเดียวกันแต่แต่งตัวไม่เหมือนกัน บาดแผลของเจ้าเตี้ยมีรู ลึก 1 เซ็นอยู่ 4 รู เรามีพยานว่าได้ยินเสียงปืน 4 นัดในคืนที่เกิดเหตุจึงเชื่อว่าเกิดทารุณกรรมขึ้น และคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 1 คน เจ้าเตี้ย คนรักมีคนชังก็มี สังคมอยากรู้คุณเอาเจ้าเตี้ยออกไปทำไมตอนสองทุ่มนิดๆทั้งๆที่เคอร์ฟิว 4 ทุ่ม พาออกไปนอกมหาลัยอีก เราไม่อยากให้เจ้าเตี้ยตายฟรี ความจริงทุกอย่างต้องประจักษ์ต่อสังคม