โพลชี้คะแนนนิยมรัฐบาลร่วงเพราะแก่งแย่งเก้าอี้

2020-05-17 11:55:09

โพลชี้คะแนนนิยมรัฐบาลร่วงเพราะแก่งแย่งเก้าอี้

Advertisement

ซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจพบคะแนนนิยมรัฐบาลลดลงอย่างต่อเนื่อง เหตุเพราะการแก่งแย่งเก้าอี้ในช่วงเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.63 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ฐานที่เปราะบาง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินการเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศรวม 2,021 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 13-16 พ.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อพิจารณาแนวโน้มฐานจุดยืนทางการเมืองของประชาชนตั้งแต่เดือน ก.ค.2562 ถึงช่วงเหตุการณ์วุ่นวายในรัฐบาล พบว่า ฐานสนับสนุนของประชาชนต่อรัฐบาลลดลงอย่างรวดเร็ว จากร้อยละ 46.9 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 36.1 เพราะความขัดแย้งแก่งแย่งตำแหน่งในรัฐบาลช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 ซึ่งอยู่บนความทุกข์ยากของประชาชน




ขณะเดียวกันผลสำรวจยังพบว่า กลุ่มคนที่ไม่สนับสนุนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22.0 มาอยู่ที่ร้อยละ 34.1 แม้แต่ฐานกลุ่มพลังเงียบก็ลดลงจากร้อยละ 31.1 เหลือร้อยละ 29.8 แต่ไปเพิ่มในฐานกลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล ที่น่าพิจารณา คือ เมื่อจำแนกฐานสนับสนุนรัฐบาล ไม่สนับสนุนรัฐบาล และพลังเงียบออกตามเพศ

พบว่า ชายกับเพศหญิงมีสัดส่วนไม่แตกต่างกัน คือ ร้อยละ 35.6 ของชาย และร้อยละ 36.6 ของหญิงสนับสนุนรัฐบาล แต่กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล พบชายร้อยละ 41.8 หญิงร้อยละ 26.9 แสดงให้เห็นว่าชายไม่สนับสนุนรัฐบาลมากกว่าหญิง ขณะที่กลุ่มพลังเงียบ พบชายร้อยละ 22.6 หญิงร้อยละ 36.5 แสดงว่าหญิงเป็นพลังเงียบมากกว่าชาย



ที่น่าสนใจ คือ เมื่อแบ่งกลุ่มออกตามช่วงอายุในฐานสนับสนุนรัฐบาล พบคนอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นฐานสนับสนุนรัฐบาลที่มากที่สุด คือ ร้อยละ 48.7 แต่กลุ่มเยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปีมีเพียงร้อยละ 10.9 เท่านั้นที่สนับสนุนรัฐบาล สำหรับกลุ่มที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล พบเยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปีส่วนใหญ่ร้อยละ 58.9 รองลงมากลุ่มอายุ 24-39 ปีร้อยละ 49.0 ไม่สนับสนุนรัฐบาลเช่นกัน

ขณะที่กลุ่มคนอายุ 40-59 ปีหรือร้อยละ 27.6 และอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 31.1 ไม่สนับสนุนรัฐบาล อย่างไรก็ตาม กลุ่มพลังเงียบพบเยาวชนจำนวนมาก หรือร้อยละ 30.2 กลุ่มอายุ 25-39 ปี รองลงมาร้อยละ 29.3 กลุ่ม 40-49 ปีร้อยละ 33.5 และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นร้อยละ 20.2 ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณา คือ ระหว่าง ยี้ กับรับได้เกี่ยวกับความขัดแย้งวุ่นวายทางการเมือง แก่งแย่งตำแหน่ง แก่งแย่งเก้าอี้ แบ่งพรรคแบ่งพวกคือต้นเหตุของความขัดแย้ง โดยจำแนกตามฐานสนับสนุนรัฐบาล, ไม่สนับสนุนรัฐบาล และพลังเงียบ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในทุกกลุ่มฐานกว่าร้อยละ 80 มีจุดยืนการเมืองคือไม่ต้องการนักการเมืองที่แย่งเก้าอี้ เพราะเป็นต้นเหตุขัดแย้งวุ่นวายทางการเมือง



ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ฐานสนับสนุนของรัฐบาลยังเปราะบางอยู่มาก โดยเห็นได้ชัดว่ากลุ่มเยาวชนส่วนใหญ่ยังไม่สนับสนุนรัฐบาล คือ ยังไม่มีอะไรที่ทำแล้วโดนใจ หรือแม้แต่กลุ่มคนสูงอายุ สัดส่วนที่ไม่สนับสนุนก็มีไม่น้อย คือ เกือบ 1 ใน 3 ดังนั้นฐานที่เปราะบางเช่นนี้ จึงทำให้กลุ่มคนสนับสนุนลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเรื่องที่มีความอ่อนไหวต่ออารมณ์ของประชาชน

สืบเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ปักใจว่าจะอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยพวกเขารับไม่ได้กับพฤติกรรมกระหายตำแหน่งหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง แทนที่จะทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในช่วงที่เกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 และวิกฤตภัยพิบัติอื่นๆ

จากข้อมูลผลสำรวจครั้งนี้ จึงขอเสนอแนะให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทั้งที่เป็นรัฐบาลและไม่ใช่รัฐบาลร่วมกับภาคประชาสังคม ช่วยสกัดกั้นไม่ให้คนไม่ดีขึ้นปกครองบ้านเมือง พร้อมขอให้ส่งเสริมคนดีมีอำนาจเข้ามาแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยควบคุมดูแลสถานการณ์และรักษาสถานภาพเดิมของการขับเคลื่อนประเทศเอาไว้ได้เป็นอย่างดี