คลังประจวบฯยันตรวจครบคนขอทบทวนสิทธิ์ 5 พัน

2020-05-14 16:45:21

คลังประจวบฯยันตรวจครบคนขอทบทวนสิทธิ์ 5 พัน

Advertisement

คลังประจวบคีรีขันธ์ยันตรวจครบผู้ยื่นขอทบทวนสิทธิ์รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ทัน 17 พ.ค.นี้


เมื่อวันที่ 14 พ.ค. น.ส.เกศริน ภัทรเปรมเจริญ คลังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบตัวตนผู้ยื่นขอทบทวนสิทธิ์รับเงินเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทางเว็บไซต์www.เราไม่ทิ้งกัน.com จากกระทรวงการคลังแล้วจำนวน 9,952 ราย ซึ่งทีมผู้พิทักษ์สิทธิ์ได้นัดหมายและลงพื้นที่ตรวจสอบตัวตนผู้ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ไปแล้ว 8,299 ราย คิดเป็นร้อยละ 83 และยังคงมีการส่งรายชื่อผู้ยื่นขอทบทวนสิทธิ์เข้ามาอีก มั่นใจว่าจะตรวจสอบตัวตนได้ครบทั้งหมดภายในวันที่ 17 พ.ค.63 เพื่อส่งข้อมูลให้กระทรวงการคลังพิจารณาจ่ายเงินเยียวยา นอกจากนี้ยังมีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอและจังหวัดจำนวน 79 ราย ส่วนใหญ่พบว่าไม่สามารถลงทะเบียนขอทบทวนสิทธิ์ได้ สำนักงานคลังจังหวัดฯจึงได้ส่งเรื่องไปให้กับกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือต่อไป ในส่วนของทีมพิทักษ์สิทธิ์ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ประจวบ สาขาหัวหิน นำทีมโดย นายวิทยา พรมโยธา สรรพสามิตพื้นที่สาขาหัวหิน พร้อมด้วย น.ส.กนกพิชญ์ ขวัญแดง นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ นางสาววัชราภรณ์ สมเก่า นักวิชาการสรรพสามิตปฏิบัติการ นางสาวเยาวลักษณ์ ดีเลิศ นักวิชาการสรรพสามิตปฏิบัติการ พร้อมคณะฯลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลของผู้ทบทวนสิทธิ์ตามมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการหรือที่ได้รับผลกระทบอื่นๆของการแพร่ระบาดโคเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ ต.หนองแก และ ต.หัวหิน อ.หัวหิน จำนวน 1,039 ราย ดำเนินการไปแล้วจำนวน 885 ราย คิดเป็นร้อยละ 85.18 คาดว่าทันแล้วเสร็จภายในวันที่ 17 พ.ค.นี้


นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้จัดประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการบริหารความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาโรคโควิด 19 จากฐานข้อมูลในระบบ Thai Quarantine Monitor หรือ Thai QM เพื่อเร่งขับเคลื่อนแนวทางมาตรการช่วยเหลือประชาชนทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ โดยจากฐานข้อมูล Thai QM ล่าสุดพบว่า จ.ประจวบฯมีผู้ที่ลงทะเบียนต้องการขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ 15 ด้าน จำนวน 41,021 คน เรื่องที่ต้องการขอรับความช่วยเหลือมากที่สุดลำดับ 1 ต้องการเงินสนับสนุนการยังชีพระยะสั้น ที่เหลือเป็นสิ่งของอุปโภคบริโภค และการลดค่าสาธารณูปโภค นอกจากนี้ประชาชนขอให้สนับสนุนปัจจัยการผลิตในภาคการเกษตร การส่งเสริมฝึกอาชีพและการจ้างงานระยะสั้น และหลังจากนี้ทุกอำเภอจะออกสำรวจการขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อบันทึกข้อมูล ก่อนที่จะมีการปิดระบบในวันที่ 15 พ.ค.นี้ เพื่อการช่วยเหลือแต่ละด้านตามบัญชีรายชื่อในฐานข้อมูลโดยเร่งด่วนต่อไป