มูลนิธิเด็กและครอบครัว พร้อมตั้งทนายร่วมอัยการสู้คดีครูหื่น

2020-05-14 11:40:17

มูลนิธิเด็กและครอบครัว  พร้อมตั้งทนายร่วมอัยการสู้คดีครูหื่น

Advertisement

ที่ปรึกษามูลนิธิเด็กและเยาวชนและครอบครัว พร้อมตั้งทนายร่วมกับอัยการสู้คดีครู 5 ราย พร้อมรุ่นพี่ 2 ราย หื่นกามลูกศิษย์อายุ 14 ปี และอายุ 16 ปี

จากกรณีคดีครู 5 ราย พร้อมรุ่นพี่ 2 ราย กระทำชำเรานักเรียนอายุ 14 ปี และอายุ 16 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 14 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางทิชา ณ นคร ที่ปรึกษามูลนิธิเด็กและเยาวชนและครอบครัว ได้ลงพื้นที่บ้านดงมอน และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมุกดาหาร เพื่อพูดคุยกับเด็ก และครอบครัวผู้เสียหาย ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าเด็กถูกละเมิดมานาน มีความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ หากปล่อยให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติยิ่งเป็นการซ้ำเติม จึงต้องเข้าช่วยเหลือให้เด็กปลอดภัย เข้มแข็งจนให้ข้อมูลหลักฐานที่หนักแน่น และเข้าถึงความเป็นธรรมให้เร็วที่สุด




นางทิชา ณ นคร กล่าวว่า ภารกิจที่สำคัญคือ อยากจะมาคุยกับน้อง 2 คน ที่กล้าหาญออกมาเพื่อที่จะสื่อสารกับสังคมว่า ตลอดเวลาเขาถูกครูละเมิดทางเพศ สำหรับป้าอยากให้นิยามอยากให้ความหมายว่า นี่คือ ความกล้าหาญของเด็ก 2 คน เพราะว่าคนที่ละเมิดเขามีอำนาจเหนือเขา ที่สำคัญเขาน่าจะตกอยู่ในความกังวลใจ และกลัวตลอดเวลา เมื่อเขาตัดสินใจออกมา เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ เพื่อยืนยันว่าเขากล้าหาญมากที่ทำให้เรื่องพวกนี้กระจ่าง ถ้าหากว่าเขาไม่ออกมาก็เป็นไปได้สูงมากที่ผู้ใหญ่กลุ่มนี้จะไปกระทำกับคนอื่นๆ ด้วยความฮึกเหิม ถ้ารู้ว่าเด็กเหล่านี้คุมได้วันนี้ เบื้องต้นที่ใครหาว่า เขาเป็นเด็กไม่ดี ถูกประจาน หาว่าเด็กประจานโรงเรียน ตอนนี้มีคนส่งสัญญาณทางโทรศัพท์ เขาตัดสินใจไม่ใช้โทรศัพท์แล้ว ตอนนี้เพื่อนๆ อาจจะด่ามา ซึ่งเราจะเปลี่ยนความรู้สึกให้เขาว่า เขาไม่ได้ประจานโรงเรียน คนประจานคือผู้ใหญ่กลุ่มนั้นมากกว่า เวลาเด็กเป็นผู้ถูกกระทำเขาจะสับสน คิดว่าตัวเองแย่อยู่แล้ว ให้รู้ว่าหนูกล้าหาญมาก

หลังจากนี้เด็กอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กอยู่ เพื่อให้คดีสามารถที่จะดึงเอาข้อเท็จจริงออกมา และความคุมปัจจัยเด็กจะเข้าไปอยู่คุ้มครองพยานของกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ซึ่ง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเห็นด้วย และเปิดทางเอาไว้ และอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เดินทางมาพบเด็กแล้ว ถ้าเด็กได้ย้ายออกจากบ้านพักของเขา และเข้าไปอยู่ในความคุ้มครองพยาน ขบวนการที่จะสู่สืบพยาน สอบสวนและสืบพยาน มันจะไม่มีแวดล้อมอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง และเด็กก็จะอยู่นิ่ง จากนั้นทางเอ็มเพาเวอร์มันก็จะเกิดขึ้น และก็การเรียงไทม์ไลน์ เดือน ปี พ.ศ. สถานที่มันจะค่อยไหลออกมา ซึ่งความแม่นยำขนาดนี้ มันจะทำให้คดีขึ้นสู่ศาลโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ถ้าเด็กยังอยู่ในที่ที่ไม่ปลอดภัย หรืออยู่ในที่ถูกรบกวน ถูกแทรกแซง ถูกข่มขู่ โอกาสที่เด็กจะให้ปากคำอย่างแม่นยำเต็มที่ มันอาจจะไม่มีหลังจากนี้ไป หวังการติดสินใจของ 2 ครอบครัว คือ การเข้าสู่การคุ้มครองพยานของกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ เรื่องทั้งหมดนี้เราตัดสินใจแทนครอบครัวไม่ได้



สิ่งที่ดีที่สุดในขบวนการยุติธรรมในครั้งนี้คือ เข้าไปอยู่ในความคุ้มครอง ออกจากทั้ง 2 จุด ไปอยู่ในที่เดียวกัน ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 ครอบครัวเข้าใจเหตุผลแล้ว เข้าใจเป้าหมายในการต่อสู้แล้ว เหลือการตัดสินใจ ซึ่งก็ให้เวลา ถ้าตัดสินใจแล้วก็ส่งสัญญาณมาบอกเรา ทางรัฐมนตรียุติธรรมส่งสัญญาณชัดว่า ยินดีให้ความคุ้มครอง ทางเด็ก ๆ ยังสับสน ยังรู้สึกไม่กล้า ไม่รู้จะไปทางไหนพูดกันให้ชัด มีข้อดีข้อเสีย ราคาที่เราต้องจ่ายเราออกมา ถ้าเราออกมาสู้ไม่ชนะ ทั้ง ๆ ที่เราถูกละเมิด มันจะเสียของขนาดไหน