สถานการณ์โควิด-19วันที่ 13 พ.ค.63 ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่แม้แต่รายเดียว ศูนย์!!
เป็นเลขในใจที่คนไทยอยากเห็นเป็นแรมเดือน จึงมีอาการดีใจแบบไม่ต้องเขิน นับแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่แสดงความพอใจ พร้อมขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือ มีวินัย ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ในช่วงผ่อนปรน ก็ขอให้อดทน ใส่หน้ากากทุกครั้ง รักษาระยะห่างทางสังคม หมั่นทำความสะอาด ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังค้นหาโรคไวรัสโควิด-19ในกลุ่มเสี่ยง สถานที่เสี่ยงต่าง ๆ รวมทั้งสถานประกอบกิจการ-กิจกรรมที่กลับมาเปิดบริการปฏิบัติตามมาตรการและข้อแนะนำเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระลอก2
ประชากรออนไลน์ ก็ออกอาการอย่างเดียวกันผ่านโซเชียลมีเดียตลอดวัน พร้อม ๆ กับเตือนว่าอย่าประมาท
ความจริง สิ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือ เลขศูนย์วันนี้ เป็นเพียงไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพราะวันถัดไปอาจพบอีกก็ได้
ผลของการไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ทำให้ยอดสะสมเท่าเดิม 3,017 ราย การเสียชีวิตยังคง 56 ราย คนหายป่วยเพิ่ม 46 ราย รวม 2,844 ราย ยังอยู่ในโรงพยาบาล 117 ราย กรุงเทพฯ นนทบุรี มีผู้ป่วยมากที่สุด รองลงมาเป็นภาคใต้
รายงานผู้ป่วยช่วง 28 วันที่ผ่านมา เหลืออยู่ 18 จังหวัด ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อกระจายไป 50 จังหวัดแล้ว
ผลย่อมเกิดแต่เหตุ ความเป็นไปของโควิด-19 ก็มาจากกิจกรรมและการจัดการในรอบ7-14วันที่ผ่านมา เช่น หลังการแพร่เชื้อในสนามมวยวันที่ 6มี.ค.63 จากนั้น วันที่ 13มี.ค.63 พิธีกรรายการมวยก็เปิดเผยตัวว่าติดเชื้อ ตามด้วยรายงานผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 3 เม.ย.63 มีประกาศห้ามออกนอกเคหสถานสี่ทุ่มถึงตีสี่ หลังจากนั้นวันที่ 6เม.ย.63 จำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดจากหลักร้อยเหลือ 51 ราย และลดหลั่นสองหลักจนถึง27เม.ย.63 ก็ลงมาต่ำสิบเป็นส่วนใหญ่
วันที่ 3พ.ค.63 เริ่มการผ่อนปรนให้กิจการ/กิจกรรมบางประเภทดำเนินการได้ภายใต้การมาตรการเฝ้าระวังและการสุ่มตรวจอย่างจริงจัง จนถึงวันที่ 13พ.ค.รวมเวลา 10วัน ที่ไม่พบการเพิ่มที่ผิดปกติ และไม่มีผู้ติดเชื้อในที่สุด
จำนวนที่ลดลงต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่เป็นที่วางใจของคนทั่วไป เตือนกันอยู่ว่าอย่าประมาทการ์ดอย่าตก บางรายเห็นข่าวการระบาดรอบสองจากต่างประเทศเลยกังวลไม่อยากให้คลายล็อก
แต่สำหรับคุณหมอที่เป็นหัวหอกรับมือวายร้ายโควิด ไม่ได้นั่งยิ้มรับนับเลขอย่างเดียว พยายามตั้งโจทย์ใหม่ ใช้การวิจัย การตรวจสอบที่เข้มข้นยิ่งขึ้น เช่น เมื่อพบคนไข้ด้านหนึ่งก็รักษา พร้อมกันก็สืบสาวต้นตอถึงภูมิลำเนา แล้วตามไปตรวจเชิงรุกทั้งตำบล หมู่บ้าน หาคนที่เคยสัมผัสคนป่วย ซึ่งก็ได้มาจำนวนหนึ่ง ถึงไม่มาก ก็ช่วยให้มั่นใจว่าเอาอยู่
ย่านบางเขน เขตสนามมวย หรือย่านคลองเตย หรือชุมชนที่ จ.กระบี่ ภูเก็ต นราธิวาส จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจมาแล้ว
ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 63 กระทรวงสาธารณสุข ปรับเกณฑ์การตรวจผู้ป่วยเฝ้าระวังหรือ PUI ไม่ต้องให้อาการหนักครบกระบวนความ แค่คัดจมูก หรือรู้สึกรับรู้กลิ่นลดลง ก็ตรวจได้ จะมีไข้หรือไม่มีก็ไม่เกี่ยง จึงได้จำนวนคนเข้ามาตรวจมากขึ้น
สิบกว่าวันที่ผ่านมา ตรวจไปแล้ว 34,444 ราย เจอผู้ป่วย 63 ราย หรือคิดเป็นร้อยล 0.18
ถ้านับรวมกับที่ตรวจไปก่อนหน้านี้ จำนวนการค้นหาเชิงรุกก็ปาเข้าไปกว่า 2 แสนราย
ความไม่ประมาทแบบหมอ ๆ จึงไม่ใช่การพูดลอย ๆ
มีสถิติและผลตรวจยืนยัน
ฉะนั้น ก่อนจะเตือนใคร ให้ดูตัวเองด้วยว่าเตรียมเกราะกันโควิดพร้อมแค่ไหน
เว้นระยะ หน้ากาก ล้างมือ ไม่ลืมนะ