ญาติครูหื่นไม่เชื่อหลานก่อเหตุ ปิดบ้านเงียบ ลุ้นเครียดถูกแจ้งข้อหาเพิ่มหลังตำรวจพบข้อมูลเหยื่อรายที่ 2 แฉมีเอี่ยว ลุงปัดไม่เชื่อหลานทำ
เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้า กรณี มีแก๊งครูหื่น ก่อคดีกระทำชำเราลูกศิษย์ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร จนกระทั่ง มีครู รวม 5 ราย และลูกศิษย์ อีก 2 ราย ถูกดำเนินคดี กระทำชำเราเด็กอายุ ไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามอันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็ก และเป็นการกระทำแก่ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร จนเป็นข่าวโด่งดัง และเป็นที่สนใจของสังคม โดยจากการตรวจสอบยังพบอีกว่า มีครูหนึ่งในแก๊งครูหื่นที่เป็นลูกหลาน ชาว อ.ปลาปาก จ.นครพนม คือ นายอานุภาพ อายุ 33 ปี ชาว ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม เป็นผู้ต้องหารายที่ 3 และเป็นหนึ่งใน 7 ของผู้ต้องหา ที่ร่วมก่อเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างการขอประกันตัวชั่วคราวต่อสู้คดี หลังผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อรายแรก เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ผึ่งแดด จ.มุกดาหาร โดยล่าสุดยังพบว่า มีผู้เสียหาย เป็นนักเรียนหญิง ม.4รายที่ 2 ที่ตกเป็นเหยื่ออกมาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่ม พร้อมแฉข้อมูลพบว่า ครูหื่นรายนี้ มีส่วนร่วมในการกระทำชำเรา ซึ่งอยู่ระหว่างตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางมาสอบถามข้อเท็จจริง ที่บ้านพัก ในพื้นที่ ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ซึ่งตรวจสอบ เป็นบ้านพักแบบครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น แต่ไม่พบเจ้าตัว พบเพียง นายมานิตย์ อายุ 77 ปี มีฐานะเป็นลุงของผู้ก่อเหตุ พร้อมได้ให้ข้อมูลว่า หลานชายไปติดต่อธุระเกี่ยวกับคดี ที่ จ.มุกดาหาร ปกติ บ้านหลังนี้จะอยู่กัน 4 -5 คน ส่วนหลานชายคือ นายอานุภาพ อายุ 33 ปี เป็นลูกของน้องสาวของตน และมีพี่น้อง 2 คน นายอานุภาพ เป็นคนที่ 2 มีพี่ชายทำงานรับราชการครู และพ่อเป็นครูเช่นกัน แต่เสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งหลานชายได้บรรจุรับราชการครู เมื่อประมาณ 2 ปี และได้แต่งงานมีครอบครัว มีลูกสาว เพิ่งได้ 3 -4 เดือน ทั้งนี้ตนยังไม่เชื่อว่าหลานชายจะก่อเหตุ ได้ยินแต่ญาติพี่น้องมาพูดคุย โดยในส่วนตัวยังไม่เชื่อ เพราะตั้งแต่เด็กไม่มีพฤติกรรมเกเร เรียนหนังสือเก่ง จนสอบบรรจุครูได้ และไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนรายละเอียดตนไม่ทราบ ส่วนหลานชายจะเทียวไปมากลับบ้านเสมอ แต่ช่วงนี้ตั้งแต่เกิดคดีจะไม่ค่อยอยู่บ้าน
