สมช. แย้มมีแนวโน้มยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ต้องผ่านการประเมินผู้ติดเชื้อรายใหม่ และปัจจัยรอบด้าน
วันที่ 11 พ.ค.63 พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมมอบหมายให้สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับกับการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยยืนยันว่า ความคิดเห็นที่ได้จากประชาชน ถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาว่าจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่
เพราะการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำเป็นต้องพิจารณาให้รอบด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และความปลอดภัยของประชาชน ประกอบกับตอนนี้ แม้ยังไม่อนุญาตให้เปิดสถานบริการ เช่น ผับหรือบาร์ แต่ยังพบประชาชนออกมามั่วสุมตั้งวงสังสรรค์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เล่นการพนัน ในยามวิกาลกันเป็นจำนวนมาก
สิ่งเหล้านี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 อย่างไรก็ตามอาจพิจารณาขยายเวลาออกไปจากเดิม ซึ่งต้องดูกิจกรรมที่จะผ่อนปรนในระยะที่ 2 ว่ามีอะไรบ้าง หากยังมีเคอร์ฟิว จะส่งผลกระทบอย่างไร หรือหากยกเลิกเคอร์ฟิว จะมีผลอะไรตามมา
เมื่อถามถึงแนวโน้มการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังครบกำหนดวันที่ 31 พ.ค.นี้หรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์ ยืนยันว่า มีแนวโน้ม แต่ต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายด้านประกอบกัน ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมานั่งประเมินถึงตัวเลขของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ ว่าขณะนี้ยังสามารถควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดได้หรือไม่
ส่วนกรณีที่ฝ่ายการเมืองโจมตีรัฐบาล ถึงสาเหตุที่ยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งๆ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างต่อเนื่องนั้น พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวคงไม่เกี่ยวข้อง ขออย่าเอามาโยงกัน เพราะการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนเป็นสำคัญ