ผบช. ภ. 4 แถลงข่าวคดี ครู 5 ราย พร้อมลูกศิษย์ 2 ราย กระทำชำเรา 2 นักเรียนหญิง บริเวณบ้านพักครูและภายในโรงเรียน พบมีการเปิดเฟซบุ๊กพูดคุยระหว่างเหยื่อกับผู้ต้องหา และมีการแอบถ่ายคลิปวิดีโอ
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ห้องประชุมแสงสิงแก้ว สถานีตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พล.ต.ท. เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช. ภ. 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผบก.จ.ว.มุกดาหาร พ.ต.อ.นำชัย ศรีเวียง ผกก.สภ.ผึ่งแดด ร่วมกันแถลงข่าวคดี ครู 5 ราย พร้อมลูกศิษย์ 2 ราย กระทำชำเราเด็กนักเรียนอายุไม่เกิน 15 ปี บริเวณบ้านพักครูและภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.ดงมอน อ.เมือง จ.มุกดาหาร
สืบเนื่องจากนางอุบล อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นยายของเด็กหญิง เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี (ผู้ถูกกระทำ) โดยมีผู้ต้องหา จำนวน 7 คน ประกอบด้วย คนที่ 1. นายวิพจน์ อายุ 35 ปี คนที่ 2. นายยุทธนา อายุ 36 ปี คนที่ 3. นายอานุภาพ อายุ 33 ปี คนที่ 4. นายสิทธิ์นันท์ อายุ 25 ปี คนที่ 5 นายเอกลักษณ์ อายุ 35 ปี คนที่ 6 นายชนะศักดิ์ อายุ 21 ปี คนที่ 7 นายพีรพงษ์ อายุ 21 ปี
โดยเหตุเกิดเมื่อประมาณปลายเดือน มี.ค. 2562 เวลาประมาณ 09.00 น. นายวิพจน์ ซึ่งเป็นครูได้หลอก ด.ญ.เอ อายุ 14 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนักเรียนในปกครอง ไปข่มขืนกระทำชำเราที่บริเวณห้องพักครู ภายในโรงเรียนที่เกิดเหตุจนสำเร็จความใคร่ และต่อมาผู้ต้องหาคนที่ 1 ก็ได้หลอกลวงผู้เสียหาย ไปข่มขืนกระทำที่ห้องพักครู และบริเวณห้องพักครู ภายในโรงเรียนที่เกิดเหตุ โดยได้ชักชวนผู้ต้องหาคนที่ 2-7 มาร่วมกระทำชำเรา ในลักษณะอันเป็นการโทรมหญิงด้วยตลอดเรื่อยมา จนต่อมาหลังเกิดเหตุนางอุบล ผู้กล่าวหา ซึ่งเป็นยายของผู้เสียหายได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ผึ่งแดด ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ 1-7 ในคดีนี้ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน จึงได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 166/2563 ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ตามกฏหมายต่อไป โดยบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นบ้านพักครู และห้องพักครูเวร ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.ดงมอน อ.เมือง จ.มุกดาหาร เมื่อประมาณเดือน มี.ค. 2562 เวลาประมาณ 09.00 น. ต่อเนื่องถึงวันที่ 4 มี.ค. 2563
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 63 นายวิพจน์ กับพวกรวม 7 คน ผู้ต้องหาจึงได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน โดยได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งในชั้นแจ้งข้อหา และในชั้นสอบสวน จึงนำตัวไปยื่นคำร้องขอหมายขังต่อศาลจังหวัดมุกดาหารต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำชำเราเด็กอายุ ไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามอันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็ก และเป็นการกระทำแก่ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร
พล.ต.ท. เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช. ภ. 4 กล่าวว่า การแถลงข่าวคดีที่เกิดขึ้นการถูกกระทำทางเพศของครูข่มขืนลูกศิษย์ เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 63 นางอุบล ซึ่งเป็นยายได้พาหลานสาว ด.ญ.เอ มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ผึ่งแดด ว่าครูโรงเรียนข่มขืน เมื่อพนักงานสอบได้รับแจ้งแล้วก็ส่งตัว ด.ญ.เอ ไปตรวจที่ รพ.ผึ่งแดด และได้สอบปากคำ มารดาของเด็ก พร้อมสอบสวน พร้อมกับสหวิชาชีพทั้ง 4 หน่วยงาน รวมถึง น.ส. บี ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกคนที่สอบสวนไปแล้ว น.ส.บี ก็ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์กับกลุ่มคณะครู ซึ่งใน 7 คน มีครู 5 คน อีก 2 คนเป็นลูกศิษย์ จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ออกหมายค้นของศาลจังหวัดมุกดาหาร ไปทำการตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหาเพื่อเก็บหลักฐาน ต่อมาวันที่ 7 พ.ค. ทั้ง 7 คน ได้พากันเข้ามอบตัวกับพนักงาน สอบสวน ซึ่งภายหลังการสอบปากคำทั้ง 7 คน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากนั้น ได้นำตัวทั้งหมดไปขออำนาจศาลฝากขัง และศาลไม่ให้ประกันตัว ส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำมุกดาหาร วันที่ 8 ทางญาติกลุ่มครู ได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัว วงเงินคนละ 350,000 บาท ในวันที่ 9 สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาที่ 22 นครพนม ได้ให้ครูออกจากราชการไว้ก่อน ตอนนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไว้แล้ว 4 ปาก และแจ้งข้อกล่าวหาไว้เรียบร้อยแล้ว และมีคลิป วิดีโอที่มีการแอบถ่าย ได้ส่งไปตรวจหลักฐานที่นครราชสีมา
ส่วนมีการเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือไม่นั้น ยังไม่เข้าข่ายข้อหาการค้ามนุษย์ ในขณะร่วมหลับนอนกันแล้วให้เงินเด็กครั้งละ 200 – 500 บาท ส่วนคลิปวิดีโอที่ถ่าย ยังไม่มีการเผยแพร่ และไม่เข้า พ.ร.บ. คอมฯ ส่วนประเด็นทำไมผู้ต้องหาพนักงานสอบสวนไม่ค้านการประกันตัว ผู้ต้องหาน่าจะปรึกษานักกฏหมายแล้วชิงเข้ามอบตัวก่อนเลย ประกอบกับผู้ต้องหามีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เป็นข้าราชการครู
ส่วนศาลจะให้หรือไม่นั้นเป็นดุลยพินิจของศาล ส่วนสำนวนคดีได้ตรวจสอบดูแล้ว และได้คุยกับพนักงานสอบสวนจะมอบให้ทาง รอง ผบช.ภ. 4 ซึ่งรับผิดชอบงานสอบสวนควบคุมสำนวนคดีการสืบสวนอย่างใกล้ ร่วมกับ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร และทาง ผกก.สภ.ผึ่งแดด ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่
พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผบก.จ.ว.มุกดาหาร กล่าวว่า ที่จริงผู้ต้องหากับผู้เสียหาย มีการใช้เฟซบุ๊ก ชื่อเดียวกัน มีการสนทนาโต้ตอบกันภายใน ไม่ออกไปสู่สาธารณชน ทราบส่วนหนึ่งก็คือ มีภรรยาอยู่แล้ว ผู้ต้องหากับผู้เสียหายคุยกันผ่านเฟซบุ๊กตัวเดียวกัน ส่วนคลิปรวบรวมพยานหลักฐานจะอยู่ในโทรศัพท์ผู้เสียหายทั้งหมด ไม่ได้มาจากกลุ่มผู้ต้องหา อยู่ในมือถือของเหยื่อเอง
กรณีความผิดต่างกรรมต่างวาระ ผู้เสียหายคนแรก อายุ 15 ปี ส่วนกรณี น.ส.บี อายุ 16 ปี มาปรากฏในสำนวนครั้งแรกในฐานะพยาน จากกันมีการสอบสวนปากคำไป ตัว น.ส. บี ก็มีพฤติการณ์คล้ายกันกับ ด.ญ. เอ โดนกระทำ ก็เลยมาเป็นเหยื่อในคดีเช่นเดียวกัน ในแต่ละครั้งก็จะมีไทม์ไลน์วันที่เท่าไหร่ หรือห้วงวันที่เท่าไหร่ กระทำโดยผู้ต้องหาคนที่ 1 – 7 ทั้งหมดไม่ได้มาพร้อมกัน ทั้ง 7 คนทุกครั้ง มา 1 คนก็มี 2 คนก็มี 3 คนก็มี กับ ด.ญ. เอ คนเดียวก็มี กับ น.ส.บี คนเดียวก็มี ส่วนการออกหมายจับ ถ้าทางพนักงานสอบสวนแยกออกมา แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ถ้าไม่มาก็จะออกหมายจับ ผู้ต้องหาอยู่ในความควบคุมไม่มีปัญหา ถึงแม้ได้ประกันตัวไป หาก ด.ญ.เอ หรือ น.ส.บี หรือญาติพี่น้องถูกคุกคาม สามารถยื่นคัดค้านถอนคำสั่งได้ทันที ณ เวลานี้ยังไม่มีการไปรบกวน ซึ่งทาง พมจ.มุกดาหาร เข้าไปดูแล้ว แต่ทาง ด.ญ. เอ และ น.ส.บี สมัครใจอยู่กับผู้ปกครองเอง ส่วนของทางตำรวจได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลตลอด
ในส่วนของสำนวนมี 2 สำนวน สำนวนที่ 2 น.ส.บี เป็นทั้งพยานคดี ด.ญ.เอ และเป็นผู้เสียหายของตนเอง สำนวนที่ 2 จะออกหมายจับให้รวดเร็วรอบคอบ และรัดกุม เป็นเรื่องละเอียดอ่อน สังคมให้ความสนใจมาก และจะมีการสอบสวนขยายผลว่ามีคนอื่น ๆ เพิ่มอีกหรือไม่ อาจจะมีการเข้าข่ายค้ามนุษย์หรือไม่ เข้ากฎหมาย เท่าที่ได้สอบถามไม่มีการใช้สารเสพติดในห้องพักครู แต่ในบ้านพักครูมีการดื่มแอลกอฮอล์ด้วย และตอนนี้ทางเราได้ข้อมูลจาก ด.ญ.ทางเดียว หลักฐานต้องลึก และชัดเจนพอสมควร ซึ่งส่งผลกับผู้ต้องหาเยอะพอสมควร