ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายงานวันที่ 8 พ.ค.63 เพิ่ม 8 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ยอดผู้ป่วยสะสมเป็น 3,000 ราย
น่าตกใจนะ วนกับตัวเลข3 บ้าง 1 บ้าง สลับมา 4 วัน จู่ๆ พรวดไปตั้ง 8 คุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบค.) ขยายความว่า เพิ่ม 3 ราย จากการค้นหาเชิงรุก(Active Case Finding) ที่ จ.ยะลา อีก 5 เป็นแรงงานต่างด้าวที่ศูนย์กักกัน ของด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา
การค้นหาเชิงรุก คือความจำเป็นเพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อ จากคนมีเชื้อที่ไม่มีอาการ ที่ไม่พบกับผู้ป่วยจากกลุ่มเสี่ยงอื่น ถือเป็นเรื่องดีอยู่หรอก เทียบกับสถิติโลก ผู้ติดเชื้อจะถึง4 ล้านในอีก1-2วันข้างหน้า จากนี้ กระทรวงสาธารณสุขปรับเกณฑ์การเฝ้าระวังผู้สงสัยติดเชื้อ แค่ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ปอดอักเสบ จมูกไม่ค่อยรับรู้กลิ่น หรือมีประวัติไข้ 37.5องศาเซลเซียส ร่วมกับปัจจัยเสี่ยง ช่วง 14 วันก่อน มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เคยเดินทาง หรืออาศัยในถิ่นที่เกิดโควิด-19 เกี่ยวข้องกับสถานที่ท่องเที่ยว ที่แออัด ติดต่อกับคนจำนวนมาก สถานที่ชุมชน เช่นห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล ตลาด ใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือสัมผัสผู้ป่วย อย่างหนึ่งอย่างใดในทำนองนี้ จงไปพบหมอ ให้ไว เกณฑ์ใหม่นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.63 ถึงวันที่ 7 พ.ค.ตรวจได้ 16,439 ราย เจอผู้ติดเชื้อ 38 ก็ได้ดูแลกันไป ทั้ง ๆที่ ผู้ป่วยรายใหม่ลดน้อยลงจนเบาใจได้ แต่พอคลายกฎให้กิจการบางอย่างเปิดได้ เห็นการแย่งซื้อเหล้า พบความแออัดตามสถานีรถไฟฟ้า การจราจรก็ติดขัด ก็ชักกังวลว่า ถ้าผ่อนปรนระยะสองให้เปิดห้างฯได้ จะมีอะไรให้หวาดเสียวได้อีก จังหวะมีข่าว ให้ถอนประเทศจีนกับเกาหลีใต้ ออกจากรายชื่อประเทศที่เป็นเขตโรคติดต่ออันตราย และมีเสียงลือเล่าอ้างอย่างอื่นตามมาให้ขนลุกเพิ่ม คุณหมอ ทวีศิลป์ ปรามว่าเป็นเพียงการหารือในที่ประชุม ยังมีขั้นตอนอีกหลายขยัก อย่างน้อยก็ต้องเจอด่านคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ แต่ถึงอย่างไร ขณะนี้ ยังมีมาตรการจำกัดการเที่ยว ไม่อนุญาตให้มีเที่ยวบินโดยสารเข้าประเทศ ถ้าจะมาจริงๆ ก็ต้องมีใบรับรองแพทย์ ฟิตทูฟลาย ก่อนขึ้นเครื่องบินมายืนยัน มาถึงปุ๊บก็ต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว ทั้งสเตต ควอรันทีม หรือโลคอล ควอรันทีน อีก14 วัน จะมาเที่ยวลอยหน้าลอยตาหาชิมสตรีตฟู้ดไม่ง่ายหรอก แต่สำหรับคนไทยในประเทศ ช่วงคลายโควิด ระยะต่อจากนี้ ที่ต้องปรับตัวกับนิวนอร์มอล เป็นเรื่องน่าคิดอยูไม่น้อย ต่อให้ปรับตัวกับการกินก๋วยเตี๋ยวโต๊ะละคน อดชุมนุมใหญ่ร้านชาบู หมูกะทะ อีกพักใหญ่ จะขึ้นรถไฟฟ้าก็มีเทศกิจจัดระเบียบให้มีระยะห่าง ขึ้นแท็กซี่อาจจะมีคอกกั้น แต่ตอนซ้อนมอเตอร์ไซค์รับจ้างจะต้องห่างกันยังไง กระทรวงสาธารณสุขไม่แนะนำ ถ้าทำได้ก็ให้พกหมวกกันน็อกไปเอง โควิดทำให้ชีวิตต้องปรับวิถีใหม่ที่ไม่เหมือนเดิมจริง ๆ