ปลัด สธ.เตือน ระวังเสียชีวิตจาก"ฮีทสโตรก"

2020-05-07 17:00:27

ปลัด สธ.เตือน ระวังเสียชีวิตจาก"ฮีทสโตรก"

Advertisement

ปลัด สธ. ย้ำเตือนประชาชนอาจถึงขั้นเสียชีวิตหากเป็น "โรคฮีทสโตรก" เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด

เมื่อวันที่ 7 พ.ค.63 นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนว่า สัปดาห์นี้ประเทศไทยจะมีสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยมีอุณหภูมิตั้งแต่ 36-41 องศาเซลเซียส จึงขอให้ประชาชนระวังการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้น ตั้งแต่มีอาการเพียงเล็กน้อยไปจนถึงอาการรุนแรงที่อาจถึงขั้นเสียชีวิต หากเป็นโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก

ส่วนสาเหตุของการเกิดโรคฮีทสโตรก เนื่องจากทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายไม่สามารถปรับตัว หรือควบคุมความร้อนในร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ทำงานล้มเหลว โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กรรมกร, คนงานก่อสร้าง, เกษตรกร กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคความดันโลหิตสูง, ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ และผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์




ด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ตั้งแต่ปี 2558-2562 พบรายงานผู้เสียชีวิตจากภาวะอากาศร้อนทุกปี เฉลี่ยปีละ 38 ราย โดยในช่วงฤดูร้อนปี 2562 ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูง 40 องศาเซลเซียส มีผู้เสียชีวิตถึง 57 ราย มากที่สุดในเดือนเมษายน

สำหรับผู้ที่มีอาการฮีทสโตรก จะมีตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีเหงื่อออก กระหายน้ำ วิงเวียนศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน ควรให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือ นำผู้ป่วยเข้าในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ให้ดื่มน้ำเย็น จับนอนราบลงกับพื้นแล้วยกเท้าทั้งสองข้างให้ขึ้นสูง



ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามหน้าผาก ซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ ร่วมกับใช้พัดลมเป่าช่วยระบายความร้อน เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ต่ำลงโดยเร็วที่สุด หากถ้ามีอาการรุนแรงหมดสติ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการทันที หรือแจ้งได้ที่สายด่วน 1669