ศบค.แย้ม 17 พ.ค.ผ่อนปรนระยะที่ 2 ไม่เพียงแค่ห้างสรรพสินค้า แต่รวมถึงผู้ประกอบการมีมาตรการที่ดี มีความพร้อม
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชี้แจงกรณีการผ่อนคลายให้เปิดห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ช่วงกลางเดือน พ.ค. เนื่องจากหลายคนอยากกลับไปสู่สภาวะปกติ โดยเฉพาะกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมนั้น โดยยืนยันว่า ช่วงระยะเวลาผ่อนปรนมาตรการ คือ ห้วงวันที่ 8 – 12 พ.ค. จะเปิดรับฟังความคิดเห็น วันที่ 13 พ.ค. ซักซ้อมความเข้าใจ โดยวันที่ 14 พ.ค. จะยกร่างมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 และในวันที่ 17 พ.ค. จะเริ่มมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ไม่เพียงแค่ห้างสรรพสินค้า หากผู้ประกอบการมีมาตรการที่ดี มีความพร้อม ร่วมกลุ่มกันหรือเป็นสมาคมหรือองค์กร เพื่อจัดทำมาตรการรวมถึงการตรวจสอบกันและกัน ถือเป็นการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคประชาสังคมและภาคประชาชนต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดขึ้น เพื่อให้สามารถผ่านมาตรการผ่อนปรนในระยะแรก และสามารถเริ่มการผ่อนปรนมาตรการในระยะ 2 ได้
โฆษก ศบค. ยังตอบข้อซักถามกรณีหลายประเทศในขณะนี้ อาทิ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย เริ่มเปิดประเทศและมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แม้ยังมีอัตราการแพร่ระบาดในประเทศสูงอยู่ อาจต้องมีการติดต่อเดินทางเข้า-ออกในประเทศไทยนั้นโดยชี้แจงว่า ยังไม่ได้มีการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมค้ากับสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีมาตรการควบคุมการเข้าประเทศ ตั้งแต่การขออนุญาต Fit To Fly ใบรับรองแพทย์ การลงทะเบียนต่างๆ รวมถึงข้อกำหนดอีกหลายประการที่มีความเข้มงวด โดยเฉพาะประเทศที่มีการติดเชื้อรุนแรง นอกจากนี้ การติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากการนำเข้าทั้งสิ้น ฉะนั้นความเข้มงวดของระบบการตรวจคนเข้าเมืองจึงมีความสำคัญมาก และยังคงเป็นระบบที่มีความจำเป็นต้องตรึงความเข้มงวดไว้อยู่ ถ้าหากยังไม่สามารถควบคุมได้ดี จะไม่ให้มีการนำเข้าอย่างแน่นอน
โฆษก ศบค. กล่าวด้วยว่า ในการทำงานของ ศบค. นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. ทำงานภาพรวมในวงกว้าง ด้วยความร่วมมือกันของภาคส่วนราชการ ผู้บริหารฝ่ายการเมือง ภาคธุรกิจ คณะที่ปรึกษา ซึ่งทุกภาคส่วนล้วนแต่มีความสำคัญทั้งสิ้น และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน