แพทย์เตือนดื่มเหล้าเป็นประจำทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง เม็ดเลือดขาวฆ่าเชื้อโรคในร่างกายได้ไม่เต็มที่ มีโอกาสติดเชื้อต่าง ๆได้ง่าย รวมถึงเชื้อโควิด -19
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รัฐบาลได้ประกาศปิดร้านอาหารหรือสถานประกอบการขายสุรามาตั้งแต่ 1 เม.ย. และต่อมาได้มีมติผ่อนปรนให้เปิดร้านอาหารหรือจำหน่ายสุราได้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2563 แล้วนั้นทำให้นักดื่มใช้โอกาสนี้ทั้งซื้อมาดื่มเองหรือตั้งวงสังสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่มีภาวะติดสุราเรื้อรัง หลังจากไม่ได้ดื่มมาระยะนึงจะทำให้เกิดอาการอยากอย่างรุนแรงหรือเสี้ยน เมื่อกลับมาดื่มซ้ำจะทำให้หลังเริ่มดื่มแก้วแรกเข้าไปแล้วจะไม่สามารถควบคุมให้ตัวเองหยุดดื่มได้ ทำให้ดื่มในปริมาณมากกว่าที่เคยดื่ม มีผลให้เกิดพิษสุราแบบเฉียบพลันได้ง่ายกว่าปกติ กล่าวคือทำให้สมาธิลดลง มึนงง ปฏิกิริยาตอบกลับอัตโนมัติช้าลง เสียการควบคุมระบบกล้ามเนื้อเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน การยับยั้งชั่งใจน้อยลงทะเลาะวิวาทกับผู้อื่นได้ง่าย กดการหายใจและ การเต้นของหัวใจ ไม่รู้สึกตัว การหายใจช้าลงและอาจเสียชีวิตได้โดยความรุนแรงของอาการจะขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ที่ ดื่มเข้าไป
นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผอ.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กล่าวว่า การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่มีประโยชน์ใดๆ และในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำยังมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลงทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานฆ่าเชื้อโรคในร่างกายได้ไม่เต็มที่ มีโอกาสติดเชื้อต่าง ๆได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการติดเชื้อโควิด -19 ด้วย และการสังสรรค์เป็นกลุ่มก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ติดเชื้อได้มากยิ่งขึ้น ในทางกลับกันหากสามารถหยุดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อไปได้จะทำให้ตับได้มีการฟื้นตัว ซึ่งตับสามารถฟื้นตัวเองได้ภายใน 3 เดือน เมื่อตับฟื้นตัวจะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้มากขึ้น ป้องกันการติดเชื้อโควิด -19ได้ การดื่มสุรานอกจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ดื่มเอง ยังอาจเกิดผลกระทบต่อสังคมและบุคคลรอบข้างได้ ไม่ว่าจะเป็นการเมาแล้วขับ เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน การทะเลาะวิวาท ทำร้ายตนเอง และทำร้ายผู้อื่น เกิดการบาดเจ็บ และอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ แนะครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดสังเกตพฤติกรรมของคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดที่ดื่มสุรา หากมีการดื่มสุราไม่ควรให้ขับขี่ยานพาหนะเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือหากพบว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดสุรา เช่น มีความอยากดื่มสุราในปริมาณมากขึ้น ไม่ได้ดื่มจะมีอาการมือสั่น เหงื่อแตก คลื่นไส้ นอนไม่หลับ ไม่สามารควบคุมการดื่มได้ มีความต้องการเลิกดื่มสุราหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ หมกมุ่นกับการดื่มสุราหรือการหาสุรามาดื่ม เสียหน้าที่การงาน และยังดื่มสุราทั้งๆ ที่มีอาการป่วยซึ่งแสดงว่าหยุดดื่มไม่ได้ ให้รีบพาไปแพทย์เพื่อเข้ารับการบำบัดรักษา โดยสามารถขอรับคำปรึกษาหรือเข้ารับการบำบัดรักษาได้ที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา ปัตตานี และโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนยาเสพติด 1165 และ www.pmindat.go.th