รวบแล้วพรานโหดยิง จนท.พิทักษ์ป่าเสียชีวิตขณะออกปฏิบัติหน้าที่ อ้างยิงป้องกันตัว ตร.ตั้งข้อหาหนัก
จากเหตุการณ์กลุ่มพรานป่า ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าบริเวณเชิงไหล่เขาในหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยประดู่ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ต.กุดตาเพชร อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี จนเป็นเหตุให้ นายคาร ไชยประเสริฐ อายุ 37 ปี หัวหน้าชุดพนักงานพิทักษ์ป่าถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าลำตัวจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา และผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ร่วมประชุมความคืบหน้าของคดี จากนั้นได้แถลงผลการจับกุมต่อสื่อมวลชน โดยสามารถจับกุมตัวกลุ่มนายพรานที่ก่อเหตุได้แล้ว 4 คนประกอบด้วย นายนายเทศ เนตรแสงสี อายุ 37 ปี นายบุญลือ ไพรขุนทด อายุ 35 ปี นายวรวุฒิ ถั่วสันเที๊ยะ อายุ 30 ปี และนายบุญโลม จุลนาค อายุ 42 ปี สำหรับมือปืนที่ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเสียชีวิต ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุจริง เนื่องจากว่าเกรงเจ้าหน้าที่จะจับกุมตัวและการที่ใช้อาวุธยิงต่อสู้กับทางเจ้าหน้าที่นั้นก็เป็นการป้องกันตัว โดยไม่คิดว่าจะเป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตดังกล่าว
พล.ต.ต.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็เป็นเรื่องของผู้ต้องหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานสามารถเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาได้ในหลายข้อหาในเบื้องต้น คือ 1.ข้อหาบุกรุกป่าสงวนในเขตหวงห้าม พกพาอาวุธปืน ครอบครองกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ครอบครองและเสพยาเสพติด
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า สำหรับนายบุญโลม ซึ่งเป็นคนร้ายที่ยิงนายคารเสียชีวิต ถูกตั้งข้อหาหนักเพิ่มคือ ฆ่าเจ้าพนักงานขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ พกพาอาวุธปืนและมีกระสุนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาลงเรือเดินทางเข้าไปในป่าดังกล่าวเพื่อนำอาวุธปืนที่ซุกซ่อนอยู่บนยอดเขามาประกอบการดำเนินคดี ทั้งนี้ได้มีญาติของผู้ต้องหาเดินทางมาดูการแถลงข่าวที่ สภ.ลำสนธิเป็นจำนวนมาก