กองปราบรวบโจ๋รุมโทรม 2 พี่น้องหนีคดี 13 ปี

2020-05-05 11:35:33

กองปราบรวบโจ๋รุมโทรม 2 พี่น้องหนีคดี 13 ปี

Advertisement

ตร.กองปราบ ตามรวบโจ๋นครปฐมครบแก๊ง หลบหนีคดีรุมโทรมเหยื่อ 2 พี่น้องไปอยู่กาญจนบุรี นานถึง 13 ปี

เมื่อวันที่ 5 พ.ค.63 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย รอง ผกก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. นำโดย ร.ต.อ.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. เข้าจับกุม นายณรินทร์ หรือเอก (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาตน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 พ.ค.2550 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพรงมะเดื่อ จ.นครปฐม ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองของเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี และนางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี บุตรสาวทั้ง 2 คน ถูกกลุ่มวัยรุ่นแก๊งค์นายณรินทร์ หรือเอก หรือฉายาเอก โพรงมะเดื่อ กับพวกรวม 6 คน พาไปข่มขืนที่บริเวณ ม.5 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม




จากการสอบถามเด็กหญิงเอ และนางสาวบี สองพี่น้องให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายณรินทร์ หรือเอก โทรศัพท์มาชักชวนนางสาวบี ให้ไปเที่ยวงานประจำปีใน อ.เมือง จ.นครปฐม ห่างจากบ้านพักประมาณ 10 กิโลเมตร ด้วยความไว้ใจที่นางสาวบี คบหากันเป็นแฟนกับนายณรินทร์ หรือเอก จึงยอมไปเที่ยวด้วย โดยชวนน้องสาวเด็กหญิงเอ ไปเป็นเพื่อน

กระทั่งตกดึกจึงพากันกลับบ้านที่ ต.โพรงมะเดื่อ แต่ระหว่างทางนายณรินทร์ ออกอุบายชวนนางสาวบี กับน้องสาวไปนั่งดื่มต่อกับเพื่อนที่ริมคลองส่งน้ำชลประทานซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่าเพื่อนของนายณรินทร์ นั่งดื่มอยู่ 5 คน หลังจากนั่งดื่มกินไปได้สักพัก นายณรินทร์ กับพวกช่วยกันจับนางสาวบี และน้องสาว ผลัดกันข่มขืนจนสำเร็จความใคร่



2 พี่น้องอาศัยจังหวะที่นายณรินทร์ กับเพื่อนเผลอ พากันวิ่งหลบหนีมาที่บ้านพัก ก่อนบอกให้กับพ่อแม่ทราบ แล้วไปแจ้งความที่ สภ.โพรงมะเดื่อ เพื่อให้จับกุมนายณรินทร์ กับพวกมาดำเนินคดี จากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายณรินทร์ พร้อมพวก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ 5 คน เหลือนายณรินทร์ เพียงคนเดียว

กระทั่งวันที่ 4 พ.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายณรินทร์ หลบหนีไปรับจ้างเลี้ยงวัวอยู่หมู่ที่ 9 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี จึงเข้าจับกุมก่อนส่งตัวพนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปตามกฎหมาย สอบสวนนายณรินทร์ ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยยืนยันว่าไม่ได้ร่วมข่มขืนผู้เสียหาย แต่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวจริง