ผู้นำประเทศและองค์การทั่วโลก ให้คำมั่นบริจาคเงิน รวมกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 259,636 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นทุนสำหรับการวิจัย ผลิตและแจกจ่ายวัคซีน และการรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่สหรัฐประเทศมหาอำนาจหมายเลข 1 ของโลก ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วม
ผู้นำ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู และ กลุ่มประเทศนอกอียู เช่น สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ และอีกหลายสิบประเทศทั่วโลก รวมถึง ซาอุดีอาระเบีย ญี่ปุ่น แคนาดา แอฟริกาใต้ ให้คำมั่นร่วมบริจาคเงิน เพื่อต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ในระหว่างการการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ เมื่อวันจันทร์ (4 พ.ค.) ขณะที่จีน ซึ่งเชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว มอบหมายให้เอกอัครราชทูตประจำอียู เข้าร่วมการประชุม
ผู้นำและผู้แทนประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุม เห็นพ้องกันที่จะสานต่อการระดมเงินทุน ในระยะหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือนข้างหน้า เสริมสร้างความพยายามที่ริเริ่มโดยธนาคารโลก มูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ และมหาเศรษฐีโลกอีกหลายคน
นางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน อดีตรัฐมนตรีกลาโหมหญิงของเยอรมนี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการยุโรป หรือ อีซี (European Commission) กล่าวภายหลังสิ้นสุดการประชุมทางออนไลน์ เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเธอเป็นประธาน ว่า ในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ที่ประชุมให้คำมั่นบริจาคเงินรวม 7,400 ล้านยูโร หรือ 8,070 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึง การวิจัยและผลิตวัคซีน การตรวจวินิจฉัยและการรักษาโรค โดยหนึ่งในเอกชนที่ร่วมบริจาคได้แก่ มาดอนนา ศิลปินเพลงป๊อปหญิงชื่อดังชาวอเมริกัน ที่ประกาศจะร่วมบริจาคจำนวน 1 ล้านยูโร หรือ 35.6 ล้านบาท
นางฟอน แดร์ เลเยน กล่าวว่า คำมั่นเงินบริจาค 8,000 ล้านดอลลาร์ เป็นไปตามความคาดหมาย แต่เป็นเพียงตัวเลชขั้นต้น โครงการร่วมจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่านี้ ในระยะเวลาที่เนิ่นนานออกไป.