ชาวสเปนทั่วประเทศเฮลั่น ได้รับอนุญาตให้ออกไปเดินเล่น หรือเล่นกีฬาได้แล้วเมื่อวันเสาร์ หลังจากกักตัวเองอยู่กับบ้านนาน 48 วัน ในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งสเปนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการระบาดรุนแรงที่สุด โดยประชาชนเกือบ 47 ล้านคน ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ประเทศที่เข้มข้นที่สุดในโลกตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งภายใต้มาตรการดังกล่าว ผู้ใหญ่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้านไปซื้ออาหาร, ยารักษาโรค หรือพาสุนัขออกมาเดินเล่นเท่านั้น
มาตรการล็อกดาวน์ถูกขยายออกไปจากปลายเดือนที่แล้ว จนถึงวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ แต่นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ผู้นำสเปน เปิดเผยแผนการเริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มแบบค่อยเป็นค่อยไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยการแบ่งเป็น 4 ระยะ ซึ่งจะสิ้นสุดภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนหนึ่งของมาตรการ คือเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ได้รับอนุญาตให้ออกมาเดินเล่นนอกบ้านได้แล้วตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยังผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มอีกระยะในวันเสาร์ (2 เมษายน)
“ฉันได้ออกมาเดินเล่นนอกบ้านระยะสั้น ๆ เป็นครั้งแรก” อามาเลีย การ์เซีย มันโซ วัย 87 ปี กล่าว ขณะที่เธอออกมาเดินเล่นบนถนนมายอร์ พร้อมสวมหน้ากากอนามัย และถุงมือและถือไม้เท้าและมีลูกสาวคอยพยุง
ทั้งนี้ สเปน มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศ 215,000 คน และเสียชีวิตเกือบ 25,000 คน เป็นหนึ่งในประเทศที่เลวร้ายที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์แล้ว แต่มาตรการคุมเข้มหลายอย่างก็ยังคงบังคับใช้อยู่ ในหลายเมืองที่มีประชาชนมากกว่า 5,000 คน เด็กและผู้สูงอายุไม่สามารถออกนอกบ้านได้ในเวลาเดียวกัน โดยในช่วงเวลา 10.00 น.ถึงเที่ยงวัน และ 19.00 น. ถึง 20.00 น.สงวนไว้สำหรับผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป และคนที่ต้องการออกไปเป็นเพื่อนพวกเขา
จากเวลา 06.00 น. ถึง 10.00 น. และจาก 20.00 น. ถึง 23.00 น. วัยรุ่นอายุมากกว่า 14 ปี และผู้ใหญ่สามารถออกไปเดินเล่นได้ในระยะห่างจากบ้านไม่เกิน 1 กิโลเมตร แต่อนุญาตให้เพียง 2 คนเท่านั้นจากครัวเรือนเดียวกัน
ส่วนในช่วงบ่าย สงวนไว้สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ซึ่งสามารถออกนอกบ้านได้โดยมีผู้ใหญ่ไปเป็นเพื่อนระหว่างบ่าย และ 19.00 น.