“มาดามเดียร์-ศิริพงษ์” ลุยเขตหนองจอกแจกข้าวสาร ไข่ไก่ ช่วยพี่น้องมุสลิม บรรเทาความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม.เขตหนองจอก พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ ชุมชนลำตาจีน และชุมชนพัฒนาบ้านแบนใหญ่ แจกข้าวสาร ปลากระป๋อง ไข่ไก่ น้ำดื่ม และแอลกอฮอล์ ให้กับพี่น้องชาวไทยมุสลิม ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงถือศีลอด เดือนรอมฎอน รวมทั้งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่และรายได้ของพี่น้องประชาชน
น.ส.วทันยา กล่าวว่า วิกฤตจากโควิด-19 ทำให้ทุกคนได้รับผลกระทบ ตั้งแต่กลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ห้างร้าน อาคารใหญ่และเอสเอ็มอี ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลกพร้อมกันอย่างไม่มีใครคาดคิด แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในบ้านเราลดลงเรื่อยๆ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 10 คนมาหลายวันติดต่อกัน และเชื่อว่าจะลดลงเป็น 0 ในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ถือว่าระบบสาธารณสุขของประเทศไทยดีกว่าทั่วโลก ไม่ใช่เพราะรัฐบาล หรือ บุคคลากรทางการแพทย์ แต่เป็นเพราะพวกเราทุกคนที่ร่วมมือกัน เว้นระยะห่างทางสังคม อยู่บ้าน หยุดเชื่อ เพื่อชาติ ทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ในส่วนของมาตรการเยียวยานั้น รัฐบาลได้แจกเงิน 5 พันบาทไปแล้ว อาจจะมีคนได้บ้างไม่ได้บ้าง ขอให้อดทนรออีกสักนิด เพราะส่วนตัวมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ทิ้งเราทุกคน อย่างแน่นอน เพราะหลังจากนี้การเยียวยาเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลจะทุ่มกำลังในการหามาตรการช่วยทุกภาคส่วน ให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวให้ได้
"เราทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกัน วันนี้ตนขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกๆคน หากเราช่วยเหลือกันแบบนี้ไม่ว่าวิกฤติใดจะผ่านเข้ามา พวกเราก็สามารถผ่านไปได้ ทุกครั้ง ความน่ารักของคนไทยเวลาเกิดปัญหา เรามักจะหยิบยื่นความช่วยเหลือ แม้ใครจะว่าเราไม่มีวินัย แต่เรามีน้ำใจในการร่วมฝันฝ่าทุกปัญหาไปได้เสมอ และในฐานะ ทุกคน ส.ส.ตัวแทนพี่น้องประชาชน ถ้ามีสิ่งใดที่ทำให้ ปชช.ได้ พวกเรายินดีประสานงานเพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือต่อไป” น.ส.วทันยา กล่าว
ด้าน นายศิริพงษ์ บอกว่า เขตหนองจองเป็นเขตที่มีพื้นที่กว้างที่สุดในกรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งแต่เกิดสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ตนเองก็ลงพื้นที่แจกแอลกอฮอล์ เจลล้างมือ และหน้ากากอนามัย ตามมาด้วยข้าวกล่อง และถุงยังชีพ เพื่อใช้ในการประทังชีวิตสำหรับพี่น้องในเขตหนองจอก 2-3 ชุมชนที่ดำเนินการแจกในวันนี้ประชาชนมีฐานะค่อนข้างยากจน สำหรับการดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเดือนถือศีลอดนั้น ซึ่งในเขตหนองจอกเองมีประชาชนที่เป็นมุสลิมมากกว่า 50% ได้ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามประกาศของจุฬาราชมนตรี ที่ยกเว้นไม่ให้ไปละหมาดที่มัสยิด แต่ละหมาดที่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเพื่อเป็นไปตามมาตรการของรัฐบาล
“ส.ส.จะพูดคำว่าเหนื่อยไม่ได้ เพราะประชาชนลำบาก เราจะสบายไม่ได้ หากประชาชนลำบาก เราก็ต้องลำบากกับประชาชน และให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เราจะเดินหน้าแจกถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนที่ยากจนและผู้ที่ด้วยโอกาศให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายศิริพงษ์ กล่าว