เข้าสู่เดือนที่ 5 การระบาดไวรัส โควิด-19
รายงานผู้ติดเชื้อใหม่วันที่ 1 พ.ค.63 มีเพียง6 ราย เป็นจำนวนต่ำสิบติดต่อกันเป็นวันที่ห้า และเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุด
ยอดสะสมเป็น 2,960 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม
มีผู้ป่วยรักษาหายอีก32 ราย ยอดรวม 2,719 ราย หรือ91.86% ผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ อยู่ที่ กทม.1 ราย เป็นชายวัย64 มีประวัติเสี่ยงไปตลาดแห่งหนึ่งมา อีก5 รายพบที่ จ. ยะลาจากการตรวจเชิงรุก ทบทวนข้อมูลโควิดพอสังเขป รายงานการพบครั้งแรกของโลกที่ประเทศจีนเมื่อ 31 ธค.62 พบในไทยครั้งแรกวันที่ 13 ม.ค.63 เป็นชาวต่างชาติ ส่วนคนไทยรายแรก พบวันที่ 15 ม.ค.63 ผู้เสียชีวิตรายแรกในประเทศ วันที่ 1 มี.ค.63 จำนวนผู้ติดเชื้อเกิน100 คน วันที่ 15 มี.ค.63 เกิน 1,000 คนวันที่ 26มี.ค.63 วันที่ 22 มี.ค.53 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุด 188 คน และนับตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.63 เป็นต้นมา จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ก็ต่ำกว่า 100 โดยตลอด จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 54 ราย เทียบกับนานาประเทศ ไทยอยู่อันดับที่ 60 โดยรายงานทั่วโลก ล่าสุดมีผู้ป่วย 3,308,233 ราย เสียชีวิตแล้ว 234,105 ราย หนึ่งในสามอยู่ในสหรัฐอเมริกา ผู้ป่วย 1,095,210 ราย เสียชีวิต 63,861ราย ประเทศอินเดีย ติดอันดับ 16 ของโลก ผู้ป่วย 34,863 ราย เสียชีวิต 1,154 สิงคโปร์ กลายเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน และอันดับที่ 25 ของโลก ผู้ป่วย16,169 เสียชีวิต 15 จำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลงต่อเนื่อง เส้นกราฟผู้ป่วยใหม่ราบขนาบพื้น จำนวนที่รักษาในโรงพยาบาลต่ำกว่า 200 เส้นกราฟโค้งลงใกล้บรรจบพื้น เส้นสีเขียวแสดงผู้ป่วยกลับบ้านกับเส้นแสดงยอดผู้ป่วยสะสมไล่ตามกันติดๆ ทำให้ความกังวลในสังคมลดลง พร้อมกับเสียงร้องของผู้เดือดร้อนจากการขาดรายได้ ตกหล่นการเยียวยา ดังขึ้นเรื่อย ๆ การผ่อนปรนที่รัฐเริ่มประกาศอาจไม่ทันใจหรือตีความไปไกล จึงปรากฎภาพการเดินทางข้ามจังหวัดคับคั่งในเทศกาลหยุดยาวต่อเนื่องจากวันแรงงาน 1 พ.ค.63 อันที่จริงการใช้รถไปโน่นมานี่ มีมากขึ้น รับรู้ได้หลายวันแล้ว กระทรวงคมนาคมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ลงสำรวจ พบว่า เมื่อ 16เม.ย.63 มีผู้เดินทาง แปดแสนคน วันที่ 23 เพิ่มเกือบถึงแปดแสนห้า และ30 เม.ย.ขึ้นไปถึง เก้าแสนหกหมื่นคน หรือเพิ่ม 13.5%
มีคำถามถึงการที่สายการบินเปิดไฟลต์ในประเทศ แล้วจะถูกกักตัวเมื่อถึงจังหวัดปลายทางหรือไม่ คำชี้แจงจากส่วนกลาง ให้สอบถามจากพื้นที่จุดหมายมีประกาศ ข้อจำกัดอย่างไร
มีความสงสัยการนั่งรถคันเดียวกันหลายคนได้ไหม จะเว้นระยะอย่างไร
ครอบครัวกินชาบูนั่งห่างแบบไหน คุณหมอใหญ่ก็ตอบให้ละเอียดยาก แต่ให้ทบทวนเส้นทางไวรัส เกิดจากคนมีเชื้อไอ จาม กระเด็นไป คนอยู่ใกล้รับเข้าปากจมูก ก็ติด จึงต้องมีระยะห่าง การสวมหน้ากากจะลดการปลิวของสารคัดหลั่ง แต่หากเชื้อเกาะกับพื้นผิวต่าง ๆ มือไปจับแล้ว เอามาสัมผัส ปาก จมูก ก็เข้าได้ ทางป้องกันคือไม่เอามือโดนหน้า โดนปาก และล้างมือบ่อย ๆ ทั้งนี้ ผลดีที่คนป่วยลดลง เพราะหมอเก่ง มาตรการเข้มและคนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ ในวันที่ล็อกเริ่มคลาย ก็ลืมไม่ได้ว่าเชื้อยังอยู่ ติดได้ แพร่ระบาดได้โดยไม่ทันให้รู้ตัว จึงต้องท่องให้ขึ้นใจและทำให้ได้ไม่ขาดพร่อง สวมหน้ากาก อยู่ห่าง หมั่นล้างมือ ทำแค่นี้ โควิด ก็หือไม่ขึ้นแล้ว