ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันที่ 30เม.ย.63 เพิ่ม7 คน ยอดสะสมเป็น2,954 คน รักษาหายอีก 22 รวมทั้งหมด 2,687 ราย คิด90.96%
ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
รายงานวันนี้ จุดเด่นไม่ใช่เลขต่ำสิบ นัยอยู่ที่ 4 รายพบโดยการตรวจเชิงรุกในชุมชน อีก3 ราย เป็นผู้กักตัวในสถานที่ของรัฐ (State Quarantine) ที่เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา
การพบผู้ป่วยที่มาด้วยอาการไข้ลดลง หรือไม่พบเป็นบางวัน ก็ยังมิใช่ความปลอดภัยในทันที เพราะอาจมีผู้รับเชื้อกลุ่มเสี่ยงที่ไม่แสดงอาการแฝงในพื้นที่ต่าง ๆ ได้ การตรวจเชิงรุกจึงต้องทำอย่างจริงจังต่อเนื่อง รายงานจากต่างประเทศ อ้างความเห็นแพทย์จีนรายหนึ่งว่า โควิด-19 จะไม่หายจากโลกนี้อย่างถาวร จะมีผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ นำเชื้อไปแพร่ต่อกับผู้อื่นได้ โดยผู้รับเชื้อก็อาจไม่ทราบเพราะไม่มีความผิดปกติใด ขณะที่การแพร่ระบาดยังคงมีทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อกว่า 3.2 ล้านราย เสียชีวิต 2.28 แสนราย ประเทศในเอเชีย ก็เพิ่มขึ้นไม่หยุด การกักตัวและการตรวจโรคกับผู้ผ่านเข้าสู่ราชอาณาจักรจึงต้องเข้มงวดต่อไป ในการกักตัวผู้กลับจากต่างประเทศ พบการติดเชื้อราว 80 คน นำเข้าสู่ระบบการรักษาทันที หากไม่มีมาตรการนี้ คุณหมอบอกอาจแพร่กระจายได้ถึงหลักหมื่น ส่วนมาตรการผ่อนปรนกับกิจการต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับการขยายเวลาขยายเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกจนถึงวันที่ 31 พ.ค.63 ที่ให้กิจการ 6 ชนิดดำเนินไปได้ ประกอบด้วย 1.ตลาด ได้แก่ ตลาดสด ตลาดน้ำ ตลาดนัด ตลาดชุมชนและแผงลอย 2.กิจการอาหาร เครื่องดื่ม ขนมหวาน อาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่ 3.กลุ่มค้าปลีกค้าส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต รถเร่ ร้านค้า 4.กิจกรรมในสวนสาธารณะ เดิน ไทเก้ก สนามกีฬากลางแจ้ง การเล่นกีฬาบางชนิด เช่น เทนนิส 5.ร้านตัดผม ที่ให้บริการเฉพาะ สระ ไดร์ 6.บริการสัตว์เลี้ยง ตัดขนสุนัข การรับฝาก กิจการและกิจกรรมเหล่านี้ จะมีรายละเอียดข้อกำหนดที่ต้องรับฟังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะมีเกณฑ์ทั้งกับผู้ให้บริการและผู้รับบริการ เช่นต้องมีระยะห่าง มีการทำความสะอาด การคัดกรองผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงทั้งสองฝ่าย มาตรการที่ให้หน่วยงานรัฐและเอกชนทำงานที่บ้าน 50%ขึ้นไปก็ยังคงอยู่ ทุกกิจการจะถูกประเมินทุกรอบ 14 วัน หากไม่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ไม่เกินสัปดาห์ละ 20-30 คน ก็จะค่อยผ่อนปรนกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงในระดับถัดไป เช่นกิจการระบบปิดในห้างสรรพสินค้า แต่จะต้องใช้ระบบคิวอาร์โค้ดให้ผู้ใช้บริการสแกนเพื่อติดตามความเสี่ยง โดยจะปล่อยในระยะละ 25 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มความเสี่ยงสูงสุด คือกิจการที่มีคนชุมนุมจำนวนมาก ได้แก่ สนามมวย หรือแหลงบันเทิง ด้วยกติกาที่วางไว้นี้ หากไม่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกรอบ 14 วัน ก็จะผ่อนปรนให้ดำเนินกิจการ กิจกรรมได้ทั้งหมด ในราว 60 วัน ใกล้เคียงกับที่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์คำนวณอัตราการติดเชื้อรวมกับความเป็นไปอื่น คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะปลอดจากชื้อโควิด-19 ในวันที่ 11 มิ.ย.63 ภายใต้มาตรการอันเข้มงวดและความร่วมมือทีดีของคนไทย ไม่เผลอให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นมาได้
