นักท่องเที่ยวรัสเซียตกค้างต้องเป็นเด็กวัดจากสถานการณ์โควิด-19 ททท.สุราษฎร์ธานีรุดตรวจสอบ
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 29 เม.ย.ที่วัดพัฒนาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี น.ส.นันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผอ.ททท.(สำนักงานสุราษฎร์ธานี) พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเดินทางลงพื้นที่สอบถามนายอีวาน อายุ 22 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่ต้องกลายมาเป็นเด็กวัด เพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 จนไม่สามารถเดินทางต่อได้เพราะไม่มีเที่ยวบิน จึงต้องมาขออาศัยวัดอยู่และช่วยงานที่วัดไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
จากการสอบถาม นายอีวา 22 ปี เล่าว่า ที่ตนเองต้องมาอยู่ที่วัดก็เพราะว่าไม่มีเที่ยวบินที่จะบินต่อไปยังประเทศอื่นๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย และวีซ่าเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยได้หมดอายุเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ตม.ได้ชี้แจงว่าสามารถอยู่ในประเทศไทยได้อีก 3 เดือน แต่ก็ต้องติดกับปัญหาเพราะที่ประเทศไทยมีคำสั่งให้ปิดโรงแรมทุกแห่ง จึงทำให้ไม่มีพักพัก แต่ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนคนไทยว่า ให้มาขออยู่อาศัยที่วัดพัฒนาราม จึงได้มาขออาศัยอยู่ที่วัดตั้งแต่ต้นเดือน และได้ช่วยเหลือวัดทำงานทุกอย่าง และในช่วงที่ทางวัดมีการแจกอาหารก็ออกมาช่วยหลวงพี่แจกอาหารทุกวัน
ทั้งนี้ตอนนี้ตนยังไม่อยากกลับไปประเทศเพราะยังมีการระบาดของโควิด-19 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และขอขอบคุณคนไทยที่ตลอดเวลาที่อยู่ที่วัดจะคอยห่วงใยคอยถาม และนำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือมาให้ใช้ และยังให้การช่วยเหลือตนเองมาโดยตลอด และขอบคุณคนไทยใจดีทุกๆคน
ด้าน น.ส.นันทวัน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทาง ททท.สำนักงานใหญ่ได้ออกหนังสือ ให้ตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่ตกค้าง ตนเองซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ได้ทำการตรวจสอบกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกแหล่งท่องเที่ยวไปก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาไม่พบว่ามีนักท่องเที่ยวตกค้าง สำหรับ นายอีวานที่มาอาศัยวัดพัฒนาราม ตนเพิ่งได้รับข้อมูลและได้เดินทางมาตรวจสอบ และได้มอบหน้ากากอนามัยและเสื้อ ททท.ไว้ใช้ ส่วนในเรื่องความช่วยเหลือนั้นจะได้ส่งเรื่องรายงานไปยัง ททท.ภาคใต้ ว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวว่าเข้าข่ายที่จะต้องช่วยเหลือหรือไม่ต่อไป