สารภาพแล้ว! หนุ่มขับเทรลเลอร์ กดเงินผู้ป่วยโรคไต

2020-04-29 16:20:06

สารภาพแล้ว! หนุ่มขับเทรลเลอร์ กดเงินผู้ป่วยโรคไต

Advertisement

หนุ่มวัย 34 ปี อาชีพขับรถเทรลเลอร์ ที่ถูกกล่าวหาเอาบัตร ATM ของผู้ป่วยโรคไตขณะนอนรักษาตัวใน รพ. ไปกดดูยอดเงินตามคำร้องขอ แล้วเงิน ”เราไม่ทิ้งกัน” หายไป 3,000 บาท และปฏิเสธมาตลอด ระบุไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ล่าสุดสารภาพกับตำรวจแล้วว่า ได้กดเอาเงินไปจริง ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาลักทรัพย์และใช้บัตรอิเลคทรอนิคส์ของผู้อื่น

วันที่ 29 เม.ย. กรณีนายณรงค์ศักดิ์ คล้ายกระแส อายุ 47 ปี ให้นางสุทาทิพย์ แก้วนะทะ อายุ 44 ปี น้องสาว ไปร้องต่อ ร.ต.อ.มานพ รอยประโคน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง อ.นางรอง ให้ช่วยติดตามบุคคลต้องสงสัย เอาบัตร ATM ไปกดเอาเงินไปจำนวน 3,000 บาท ระหว่างนอนรักษาตัวด้วยโรคไตที่ รพ.นางรอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา จนทราบต่อมาว่า ผู้เอาบัตรไปกดเงินคือนายสมปอง อายุ 34 ปี ชาว ต.ชุมแสง อ.นางรอง อาชีพขับรถเทรลเลอร์ส่งสินค้าตามห้างสรรพสินค้า และได้ไปทำงานต่างจังหวัดแล้ว

หลังจากนั้นนายสมปอง และภรรยาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทางโทรศัพท์ มาโดยตลอดว่าไม่เคยกดเอาเงินไป เพราะตนและครอบครัวไม่เดือดร้อนเรื่องการเงิน แต่จะคืนเงินให้จำนวน 3,000 บาท ตามคำร้องขอของนายณรงค์ศักดิ์ เพราะไม่อยากจะเสียเวลาทำมาหากิน แต่ก็อยากจะให้มีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่า”ใครเป็นคนกดเงินไป”




ล่าสุดนายสมปอง ผู้ถูกกล่าวหา เดินทางมาพบ พ.ต.อ.ภควัตร ธรรมดี ผกก.สภ.นางรอง อ.นางรอง ตามหมายเรียก จากการสอบสวนเบื้องต้นนายสมปอง ยังให้การปฏิเสธ ผกก.ใช้เวลาประมาณ 30 นาที นายสมปอง จึงเปิดปากยอมรับว่า ได้เป็นคนกดเอาเงินไปจริง เพียงแค่เอาเงินไปติดตัว แต่ยังไม่ได้เอาเงินไปใช้  ขณะที่ น.ส.ประกาย อายุ 31 ปี ภรรยานายสมปอง กล่าวว่า ถึงเวลานี้ก็ยังไม่เชื่อว่าสามีกดเงินไปจริง เพราะไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่อยากรู้ถึงแรงจูงใจของสามีว่า ทำไมถึงไปกดเงินของเขา

ด้าน พ.ต.อ.ภควัตร ธรรมดี ผกก.สภ.นางรอง ระบุว่า หลังจากเกิดเรื่อง ตำรวจได้ทำการตรวจสอบทั้งกล้องวงจรปิด และหลักฐานอื่น จนมีการออกหมายเรียก และรับสารภาพในเวลาต่อมา



ทั้งนี้ตำรวจจำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหา เพราะการกระทำผิดได้สำเร็จแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักทรัพย์ และใช้บัตรอิเลคทรอนิคส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และอยากเตือนผู้ที่คิดจะกระทำการในลักษณะนี้ เพราะถือเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้

ขณะที่นายณรงค์ศักดิ์ คล้ายกระแส อายุ 47 ปี ผู้ป่วยโรคไต และเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ กล่าวว่า ตนมีอาชีพหาของเก่า หลังตกงานก็หวังที่จะได้เงินเยียวยาของรัฐบาล แต่ไม่คิดว่าเงินจะหายไปง่ายๆแบบนี้  เป้าหมายส่วนตัวยังเหมือนเดิมคือไม่อยากจะให้ตำรวจดำเนินคดี เพียงแค่อยากได้เงินคืนเท่านั้น ไม่อยากให้ติดคุก เพราะสงสาร แต่ก็ขึ้นอยู่กับตำรวจและกฎหมาย สำหรับตนเองให้อภัยแล้ว