พ่อร้องกองปราบลูกสาวขาดการติดต่อ หลังพบอยู่กินกับชาวอิสราเอล ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพโบกปูนเชื่อไม่มีชีวิตอยู่แล้ว หวังเห็นเพียงศพก็ยังดี
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความพร้อมด้วย นายอนันต์ แสงอุไร บิดาของ น.ส.นันทิยา แสงอุไร ซึ่งหายตัวและขาดการติดต่อไปตั้งแต่ปี 2558 เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับกองบังคับการปราบปราม ให้ช่วยติดตามหาลูกสาว ซึ่งเป็นภรรยาของนายซีมอน เบตัน ชาวอิสราเอล ผู้ต้องหาในคดีฆ่าหั่นศพและโบกปูนอดีตนายตำรวจอิสราเอลที่ จ.นนทบุรี ก่อนถูกจับกุมตัวเมื่อปี 2559
นายอนันต์ กล่าวว่า ตั้งแต่ไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง ปีที่แล้ว ยังไม่มีความคืบหน้า และตำรวจได้อายัดเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งมีหลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด โดยตำรวจอ้างว่า ต้องมีผู้เชี่ยวชาญของอิสราเอลมาช่วยถอดรหัสแปลภาษาเพราะเป็นภาษาอิสราเอลทั้งหมด แต่เวลาผ่านมาจนถึงขณะนี้ก็ไม่มีความคืบหน้า ส่วนตัวไม่มีความหวังว่าลูกสาวมีชีวิตอยู่เพราะเวลาล่วงเลยมากว่า 2ปี แล้ว
“เบาะแสสุดท้าย คือ การพูดคุยกับลูกสาว เมื่อปี 2558 ที่มายืมอุปกรณ์ไปประกอบอาชีพ ซึ่งขณะนั้น ลูกสาวถูกนายไซมอนจับโกนศีรษะ และบอกว่าถูกบังคับให้เข้าลัทธิหนึ่งตั้งแต่นั้นก็ขาดการติดต่อจึงได้สอบถามไปหานายไซมอน ได้รับคำตอบหลายครั้งไม่ตรงกัน เช่น ลูกสาวป่วยเป็นมะเร็งเสียชีวิต และถูกจับกุมตัวที่ สปป.ลาว ประกอบกับ ที่ผ่านมา ทราบว่านายไซมอนเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพจึงเชื่อว่าลูกสาวไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่มีความหวังว่าจะเจอศพเพียงเท่านั้น
ขณะที่นายรณณรงค์ ยอมรับว่าคดีนี้ ผู้ต้องหามีประวัติไม่ธรรมดา เคยพัวพันกับคดีฆ่าหั่นศพมาแล้วหลายศพ อีกทั้งลูกสาวของนายอนันต์ก็หายตัวไปนานกว่า 2 ปี ซึ่งจนถึงขณะนี้ไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเบาะแส จึงต้องขอให้กองปราบปรามเข้ามาดูแลคดีนี้
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนกองกำกับการ2กองปราบปราม อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดคดีที่ผู้เสียหาย สภ.บางบัวทอง รวมถึงหลักฐานสำคัญที่อ้างว่าอยู่ในการอายัดของตำรวจ ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุด หลักฐานดังกล่าวถูกส่งให้ศาลพิจารณาเป็นหลักฐานในคดีและจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเพื่อดูข้อมูลได้