"เฟซชิลด์" ที่ดาราใส่กันเป็นเพียงแฟชั่นหรือป้องกัน โควิด - 19 ได้จริง ?

2020-04-28 14:55:07

"เฟซชิลด์" ที่ดาราใส่กันเป็นเพียงแฟชั่นหรือป้องกัน โควิด - 19 ได้จริง ?

Advertisement

ดาราเซเลบแห่ใส่เฟซชิลด์กันใหญ่ โดยมีความคิดกันว่าสามารถป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด - 19 หรือไวรัสโคโรนาได้ จากกรณีนี้มันคือความจริงทั้งหมดหรือไม่ วันนี้มีเฉลยแล้ว !!



กรมอนามัย ประกาศเตือนคนบันเทิงทั้งหลายที่แห่ใส่แค่เฟซชิลด์ และถ่ายทำรายการกันอยู่ในขณะนี้นั้น ยันไม่ช่วยป้องกัน ยังเสี่ยงเชื้อโควิด ย้ำเฟซชิลด์ไม่ได้ใช้แทนหน้ากาก แต่เป็นอุปกรณ์เสริมเพิ่มจากการใส่หน้ากาก สำหรับคนที่ทำอาชีพเสี่ยงสูง ส่วนร้านอาหารหากเปิดนั่งกิน ต้องทำความสะอาดทั้งหมด จัดการพื้นที่ให้โปร่ง เว้นระยะห่าง จำกัดเวลาการนั่งรับประทาน ระบบคัดกรองต้องเข้มข้น 






เมื่อวันที่ 23 เม.ย. พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณีบางกลุ่มบางอาชีพ เช่น นักแสดง พิธีกรรายการ ใช้แค่กระจังหน้า (Face Shield) สนทนากัน เพียงพอต่อการป้องกันโรคโควิด-19 หรือไม่ ว่า ไม่ควรทำเช่นนั้น การสวมเฟซชิลด์เป็นเพียงอุปกรณ์เสริมเพิ่มจากหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเท่านั้น ไม่สามารถจะใช้ทดแทนกันได้ เช่น บุคลากรสาธารณสุข ที่ต้องทำงานบนความเสี่ยงมากๆ ที่อาจจะเจอเหตุไม่คาดฝัน คนไอจาม ใส่หน้า หรือพนักงานขายของในร้านสะดวกซื้อ หรือคนที่ต้องเจอคนมากๆ ก็อาจใช้เสริมได้ ซึ่งต้องย้ำว่า การใช้เฟซชิลด์ต้องคู่กับหน้ากากทุกครั้ง การใส่เฟซชิลด์เพียงอย่างเดียว ก็เหมือนกับการไม่ใส่เครื่องป้องกันอะไรเลย เป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อโควิด-19 แต่ส่วนแม่ครัวที่ทำอาหารอาจใส่หน้ากากตลอดเวลาไม่ได้ เพราะต้องมีการชิม การถอดเข้าถอดออกก็เป็นความเสี่ยง ก็จะมีอุปกรณ์ป้องกันในส่วนของปากที่จะกรองไม่ให้น้ำลายกระเซ็นตกลงไปในอาหาร ซึ่งก็สามารถช่วยลดการถอดเข้าออกของหน้ากากได้ และการทำอาหารส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้เจอคนอยุ่แล้ว ก็อาจใช้แบบนี้ได้



โดยเผยต่อว่า “ละอองฝอยยังคงสามารถเข้ามาได้ แต่ลดปริมาณลงเท่านั้น เพราะตัวเฟซชิลด์ไปเปลี่ยนมุม สมมติคุยกันมีเชื้อกระเซ็นออกมาใช่มั้ย ก็สามารถเปลี่ยนมุม หรืออย่างน้อยเชื้อก็อยู่อย่างนั้นทั้งวัน มันก็ลดปริมาณที่จะสะสมบนหน้ากากผ้า แต่ตัวหลักที่ป้องกันคือ ตัวหน้ากากที่ปิดที่ปากที่จมูก”



ซึ่ง พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า สำหรับการพิจารณาเปิดบางกิจการนั้น ทำอย่างไรที่จะไม่มีการติดโควิด-19 การเปิดต้องมีเงื่อนไข คือ 1.เรื่องของความสะอาด ซึ่งเป็นพื้นฐานตามกฎหมายเดิม แต่ต้องทำเพิ่มขึ้นในเรื่องของจุดสัมผัส การดูแลบุคลากร หากพนักงานมีอาการต้องให้หยุดทันที 2.การจัดการสถานที่ต้องไม่แออัด ไม่หนาแน่น และไม่อยู่ในพื้นที่เป็นเวลานาน ดังนั้น หากเป็นพื้นที่เปิดโล่งก็จะได้เปรียบมากหน่อย แต่หากเป็นพื้นที่ร้านต้องดูว่าพื้นที่จะเข้าไปอยู่ได้เท่าไรไม่แออัดเกินไป แล้วทำอย่างไรให้เกิดระยะห่างในพื้นที่ได้ จัดระบบนัดหมาย การจำกัดเวลา รวมถึงมีการคัดกรองก่อนเข้ามา และ 3.ผู้เข้าใช้บริการ ก็ต้องปรับตัว คือ ออกจากบ้านต้องใส่หน้ากาก อย่างบางที่ไม่อนุญาตให้เข้าไป เพื่อให้ปลอดภัยทั้งผู้บริการและผู้เข้ารับบริการ





ทั้งนี้ "กิจการที่น่าจะได้รับการผ่อนปรนก็ต้องใช้หลักการแนวทางแบบนี้ ปรับตัวทั้งผู้ให้บิรการ ผู้เข้ารับบริการ ร้านเสริมสวย ร้านอาหาร เราก็ส่งคนไปดูต้นแบบว่าจะทำได้อย่างไร"