จ่อเปลี่ยนตัว “อุตตม - สนธิรัตน์-สุวิทย์” พ้น ครม.

2020-04-28 05:00:20

จ่อเปลี่ยนตัว “อุตตม - สนธิรัตน์-สุวิทย์” พ้น ครม.

Advertisement

“บิ๊กป้อม” จ่อเปลี่ยนตัว “อุตตม - สนธิรัตน์-สุวิทย์” พ้น ครม.หลังจบ พ.ร.ก.กู้เงิน โยนนายกฯตัดสิน เปืดรายชื่อ 34 กรรมการบริหาร พปชร. ชุดปัจจุบัน หาก “อุตตม” ยอมลาออกหัวหน้าพรรคต้องเลือกใหม่ ภายใน 60 วัน แต่ถ้าดื้อ เตรียมใช้เสียงกึ่งหนึ่งลาออก ก็หมดสภาพเช่นกัน

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาเป็น พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์ พปชร. พร้อมเปลี่ยนตัวนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เลขาธิการพรรค มาเป็นนายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทุนของพรรค ว่า เรื่องดังกล่าวมีมูลความจริง ปัญหาที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากความไม่พอใจของ ส.ส.ที่สะสมมาตั้งแต่ นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ มีท่าทีห่างเหินกับส.ส.ของพรรคและเข้าถึงยาก ไม่เข้าใจพฤติกรรมของการเป็นพรรคการเมือง ไม่มีการดูแลสนับสนุนปัจจัยเพื่อดูแล ส.ส.ภายในพรรค ตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 เป็นต้นมา จนทำให้พล.อ.ประวิตร ต้องเข้ามานั่งตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค รวมถึงจัดแบ่งแกนนำพรรคให้ตามภาค ให้ดูแล ส.ส.ทั่วประเทศ พร้อมเตือนทั้ง 2 คนให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เข้าใจ ธรรมชาติของ ส.ส. 

ล่าสุดเข้าสู่ช่วงวิกฤตโควิด- 19 ส.ส.พปชร.ต้องลงพื้นที่ดูแลประชาชน รวมถึงสิ่งของสนับสนุนในการดูแลประชาชนในพื้นที่ แต่ทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ก็ไม่ได้ให้การสนับสนุน มีเพียงกระทรวงพลังงาน ที่ให้โควตา ส.ส. นำแอลกอฮอล์ 800 ขวด ลงไปแจกประชาชน และติดสติ๊กเกอร์นายสนธิรัตน์ รมว.พลังงาน บนขวด ทำให้ ส.ส.ไม่พอใจ เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้าย จึงได้รายงานต่อพล.อ.ประวิตร ประธานยุทธศาสตร์พรรค เมื่อพล.อ.ประวิตร รับทราบปัญหาต่างๆ จากส.ส. ทำให้ เมื่อวันที่23 เม.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังเสร็จพิธีพราหมณ์ตั้งศาลพระพรหม และทำบุญ บริเวณด้านหน้าอาคารเลขที่ 547 ศูนย์ประชุม พปชร. ที่จะใช้เป็นสถานที่สำหรับการประชุมพรรค ถนนรัชดาภิเษก  ซึ่งอยู่ตรงข้ามศาลอาญา ซึ่งมีแกนนำ กรรมการบริหารพรรค และรัฐมนตรีของพรรคบางส่วน เข้าร่วม อาทิ นายอุตตม นายสนธิรัตน์ นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุวทิน รมว.ยุติธรรม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นางนฤมล ภิญโญ สินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรค

พล.อ.ประวิตร ได้เรียกแกนนำ แต่ละกลุ่มเข้าพบ พูดคุยกลุ่มละ ประมาณ 10-15นาที โดยได้พูดคุยกับนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ถึงความไม่พอใจของ ส.ส. ที่ไม่อยากให้ทั้ง 2 คน อยู่ในตำแหน่งต่อไป หากจะให้ พปชร.เดินหน้าทางการเมืองและคงสถาบันความเป็นพรรคการเมืองต่อไป ซึ่งทั้ง 2คนก็รับทราบ ซึ่งการเคลื่อนไหวกดดันที่เกิดขึ้นนั้น มาจากแรงสนับสนุนของแกนนำกลุ่มอื่นๆ ทั้งกลุ่มนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กลุ่ม กปปส.กลุ่ม กทม.บางส่วน รวมทั้งนายมหารใกล้ชิดพล.อ.ประวิตร ออกมากดดันกรรมการบริหารพรรคคนอื่น ให้ลาออกเพื่อให้หัวหน้าพรรคพ้นสภาพและเตรียมการประชุมสามัญพรรค เพื่อเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในพรรค และลดบทบาทของกลุ่มนายสมคิดลง ซึ่งแนวคิดการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารพรรค ยังเป็นแค่การเตรียมการไว้ แต่ยังไม่ใช่ช่วงเวลานี้ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่

ทั้งนี้คาดว่าจะมีการเรียกประชุมพรรคก่อนเปิดสมัยประชุมสภาฯนี้ ในเดือนพ.ค.นี้ เพื่อปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหาร พปชร.ชุดใหม่ เพื่อให้พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ ในฐานะนายทุน ที่ให้ตึกเป็นที่ทำการพรรค ขึ้นเป็นเลขาธิกาพรรรค รวมถึงอาจมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งอื่นๆ อาทิ โฆษกพรรค ให้ทำงานเชิงรุกทางการเมืองมากขึ้น เป็นต้น

แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวการปรับ ครม. ก็มีแนวโน้มที่จะปรับด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากครบสัญญาใจ 1ปี ที่บรรดาคนอกหัก ในกลุ่มก๊วน ต่างๆต้องยอมกลืนเลือดเพื่อให้สามารถตั้งรัฐบาล “ประยุทธ์ 1” ได้ และเมื่อครบกำหนดการบริหารงาน1 ปี จึงออกมากระตุ้นเตือนสัญญาใจที่ให้กันไว้ และหากมีการปรับครม. รอบนี้ ยังคงมีชื่อของนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ประธาน ส.ส.พรรค นายอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มสามมิตร เข้ามาอย่างแน่นอน รวมถึงอาจมีการสลับตำแหน่งในบางกระทรวงเพื่อให้ การทำงานตรงกับคน และล่าสุดก็มีชื่อของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 5 เข้ามาติดโผ รมช.กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง

แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่า การปรับ ครม.ในส่วนของ พปชร.มีความพยายามที่จะเขี่ย “3 กุมาร”ทิ้งหมดให้หลุดจากวงโคจร ทั้งนายอุตตม รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ รมว.พลังงาน. นายสุวิทย์ รมว.อว. เพราะต้องการกระทบไปให้ถึงตัวของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากในช่วงระยะหลัง พล.อ.ประวิตร ไม่พอใจกับทีมเศรษฐกิจชุดนี้ ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวว่าพล.อ.ประวิตร ได้ติดต่อทาบทาม อดีตนายแบงค์คนหนึ่ง ให้เข้ามาคุมทีมเศรษฐกิจด้วย สำหรับนายอุตตม นั้นคาดว่าจะได้ทำงานชิ้นสำคัญส่งท้ายตำแหน่ง รมว.คลัง คือ การเสนอร่างพ.ร.ก.กู้เงินที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงวันที่ 27 -28 พ.ค.นี้ และจะเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา ในช่วงต้นเดือน มิ.ย. ก็จะเสร็จภารกิจ รมว.คลัง โดยนายอุตตม จะไม่ได้เสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ที่คาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ 

แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่า นอกจากนี้ในส่วนตำแหน่ง รมว.พลังงาน นั้นคาดว่าจะคืนให้กับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แกนนำกลุ่มสามมิตร ทั้งนี้ในเบื้องต้นจะยังไม่มีการไปขยับในโควตาของพรรคร่วมรัฐบาล และถ้าพรรคไหน ต้องการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีภายในพรรคก็สามารถแจ้งมาได้ โดยเรื่องปรับ ครม.อาจไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เพราะยังมีปัจจัยเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข และจะต้องประเมินสถานการณ์ให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้และเป็นไว้วางใจได้ก่อนจะพิจารณาในเรื่องอื่น โดยทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณของนายกฯ

แหล่งข่าวระบุอีกว่า การเคลื่อนไหวกดดันให้นายอุตตม หัวหน้า พปชร. ลาออกนั้น ตามข้อบังคับพรรค กำหนดว่ากรรมการบริหารทั้งคณะต้องสิ้นสภาพไปด้วย และทางพรรคจะมีการประชุมใหญ่เพื่อแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ขึ้นมาทดแทนต่อไปภายใน 60 วัน ขณะนี้ผู้ใหญ่ในพรรคยังให้เวลาตัดสินใจ แต่หากไม่จะดำเนินการ ก็จะให้กรรมการบริหารพรรคลาออกกึ่งหนึ่ง คือ 18 คน จาก ทั้งหมด 34 คนลาออก เพื่อเปิดทางเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่เข้ามาแทน และเตรียมใช้ข้อบังคับพรรคด้วยการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอจัดประชุมใหญ่พรรคในการลงมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต่อไป ซึ่งผู้ที่มีสิทธิโหวตได้แก่ ตัวแทนส.ส. ตัวแทนสาขาพรรค และตัวแทนสมาชิก รวมกันไม่ต่ำกว่า 250 คน คาดว่าจะจัดประชุมใหญ่พรรคได้ประมาณกลางเดือนมิ.ย. เป็นต้นไป

สำหรับรายชื่อกรรมการบริหารพรรค พรรคจำนวน 34 คน ประกอบด้วย 1. นายอุตตม 2. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ 3. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 4. นายอนุชา นาคาศัย 5. นายไพบูลย์ นิติตะวัน 6. นายสนธิรัตน์ 7. นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ 8. นายวิเชียร ชวลิต 9. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 10. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 11. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 12. นายพงษ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ 13. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ 14. นายอิทธิพล คุณปลื้ม 15. นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 16. นายชวน ชูจันทร์ 17. นายสันติ กีระนันทน์ 18.นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล 19.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 20. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน 21.นายสันติ พร้อมพัฒน์ 22. นายสุพล ฟองงาม 23. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 24. นายวิรัช รัตนเศรษฐ 25.นายสุชาติ ชมกลิ่น 26.นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ 27. นางประภาพร อัศวเหม 28. นายนิโรธ สุนทรเลขา 29. นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ 30. นายสกลธี ภัททิยกุล 31. นายไผ่ ลิกค์ 32. นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ 33. นายสุรชาติ ศรีบุศกร และ 34.นายนิพันธ์ ศิริธร

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า  ไม่มี เอาเรื่องโควิด-19ให้หายดีก่อน ผ่านอุปสรรคต่างๆไปให้เรียบร้อยก่อน ให้คนทำมาหากินได้ด้วยดี   ส่วนจะมีการปรับรัฐมนตรี 5-6 ตำแหน่ง จริงหรือไม่  พล.อ.ประวิตร ส่ายหน้าพร้อมระบุว่า ไม่มี

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าท่านพูดคุยกับนายอุตตม สาวนายน  รมว.คลัง หัวหน้า พปชร. เพื่อขอให้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค  พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า  ที่ไหน ไม่มี ไม่ได้พูดคุย จะคุยอะไร จะปรับได้อย่างไร ต้องประชุมพรรคทั้งหมดก่อน

ต่อข้อถามว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายอุตตม จะยังเป็นหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ไม่รู้ แล้วแต่ที่ประชุมพรรค ที่ประชุมพรรคว่าอย่างไรก็ว่ากัน เมื่อถามอีกว่า กระแสข่าวออกมาช่วงสถานการณ์โควิด-19 กำลังคลี่คลาย  พล.อ.ประวิตร  กล่าวว่า ใครเป็นคนปล่อยข่าว ก็ไปถามคนนั้น