"หมอล็อต"วอนชาวบ้านทุกตำบลใน อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ช่วยกันดูแล"พลายแก่งกรุง" ช้างป่าบาดเจ็บขาพิการสุดน่าสงสาร
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.63 น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน หรือหมอล็อต สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โพสต์รูปภาพพร้อมระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า พวกเราดีใจกันมากที่พบช้างป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง โดยช้างตัวนี้ขาหลังข้างขวาพิการ ส่วนขาหลังซ้ายพยุงตัวได้นิดหน่อย ขาคู่หน้าใช้การได้ปกติ ไม่มีอาการบาดเจ็บหรือรอยแผลใดๆ
สิ่งที่เราดีใจ คือ ช้างป่าตัวนี้ คือ ช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 30 ปี มีอาการอ่อนแรง ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้ช่วยเหลือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว สันนิฐานว่าอาจเกิดจากความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด หรือได้รับอุบัติเหตุตั้งแต่ยังเล็ก เนื่องจากสภาพพื้นที่บางแห่งเป็นเนินเขาสูงชัน แต่เชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
ขณะนั้นตนมอบหมายให้สัตวแพทย์หญิงกิตติยาภรณ์ เอี่ยมสะอาด เดินทางเข้าพื้นที่ช่วยเหลือช้างป่าด้วยการให้ยารักษา ซึ่งมีความยากลำบากและอันตรายเป็นอย่างมาก แนวทาง คือ จะเร่งรักษาให้พ้นจากวิกฤติแล้วให้ธรรมชาติเป็นตัวบำบัดตามธรรมชาติ จากนั้นไม่พบเห็นช้างป่าตัวดังกล่าวอีกเลย
จนวันนี้พบเจอช้างป่าตัวดังกล่าว เจ้าหนาที่อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง จึงร่วมติดตามร่องรอยการหากิน โดยพบรอยกองมูลตลอดระยะเวลาของการติดตาม จนใกล้ถึงน้ำตกโตนเรือบิน พบกองมูลสภาพใหม่แต่ยังไม่พบตัว แต่ขณะนั้นเป็นเวลาเย็นแล้ว เจ้าหน้าที่จึงยุติการติดตามเพื่อความปลอดภัย ก่อนจัดทีมสัตวแพทย์ติดตาม และประเมินสภาพต่อไป
ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ "พลายแก่งกรุง" ยังมีชีวิตอยู่ ใจสู้ เรียนรู้ เอาตัวรอดได้ดี หากินอาหารได้ปกติ ไม่มีใครทำร้าย และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะพบเห็นพลายแก่งกรุง ออกมาหากินในพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ราบ เนื่องจากสภาพความผิดปกติของร่างกาย น้ำหนักและอายุที่เพิ่มมากขึ้น เป็นอุปสรรคต่อภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่ลาดชัน
ดังนั้นชาวตำบลปากหมาก และทุกตำบลใน อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ที่พลายแก่งกรุงออกหากิน จึงเปรียบเสมือนตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ ที่จะช่วยกับประคับประคองและเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับช้างป่าพลายแก่งกรุง ตัวนี้ตลอดไป ต้องขอขอบคุณคุณกัญจนา ศิลปอาชา และน้าหมู สาริกา ที่ติดตามและห่วงใยพลายแก่งกรุง และสนับสนุนการช่วยเหลือสัตว์ป่าเสมอมา
