ทรัมป์ไม่ทน สั่งทัพเรือสหรัฐ ยิงเรือรบอิหร่าน หากยังป่วนไม่เลิก

2020-04-23 11:45:23

ทรัมป์ไม่ทน สั่งทัพเรือสหรัฐ ยิงเรือรบอิหร่าน หากยังป่วนไม่เลิก

Advertisement

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แถลงเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังเรือรบ 11 ลำจากกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่านพุ่งเข้าใกล้เรือรบสหรัฐในระยะอันตรายในอ่าวเปอร์เซียว่า เรือรบของกองทัพสหรัฐจะยิงเรือปืนอิหร่านทุกลำที่พุ่งเข้าใกล้ “เราจะไม่อดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากพวกเขาทำในสิ่งที่จะเป็นอันตรายต่อเรือรบ, ลูกเรือและทหารเรือของเราผมจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น และจะยิงขับไล่พวกเขาออกนอกน่านน้ำ เพราะนั่นเป็นการคุกคาม เมื่อพวกเขาเข้าใกล้เรือของเรา พวกเขามีปืน พวกเขามีอาวุธมากมายบนเรือ”

การเผชิญหน้ากันระหว่างเรือรบกองทัพอิหร่านกับสหรัฐ ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเป็นประจำในปี 2559 และ 2560 ซึ่งกองทัพเรือสหรัฐยิงเตือนเรือรบอิหร่านหลายครั้ง เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้าในระยะประชิด ในช่วงต้นเดือนนี้ กองทัพสหรัฐ แถลงว่า มีเรือรบ 11 ลำจากกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน จู่โจมเข้าใกล้กับเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐและเรือของหน่วยยามฝั่งในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งสหรัฐเรียกการกระทำเช่นนี้ว่า เป็นการเคลื่อนไหว “อันตรายและยั่วยุ” โดยมีเรือหลายลำของอิหร่าน พุ่งเข้าใกล้เรือหน่วยยามฝั่งของสหรัฐในระยะห่างเพียง 9 เมตร หรือ 10 หลาเท่านั้น

ทรัมป์ยังได้เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาได้สั่งให้กองทัพเรือสหรัฐยิงและทำลายเรือรบอิหร่านทุกลำ หากแสดงท่าทีเป็นภัยคุกคามต่อเรือรบสหรัฐในทะเล ซึ่งทรัมป์ทวิตข้อความไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน แถลงในวันพุธว่า ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมทหารลำแรกของประเทศขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดความตึงเครียดระดับสูงกับสหรัฐ กรณีโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเตหะราน




กองทัพเรือสหรัฐระบุมีอำนาจในการป้องกันตนเองเต็มที่ แต่ถ้อยแถลงของทรัมป์ ดูเหมือนจะขยายความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและสหรัฐมากขึ้น แม้ว่าระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในช่วงบ่ายวันพุธ ทรัมป์บอกว่า กองทัพจะไม่เปลี่ยนแปลงกฎของการเข้าปะทะก็ตาม การเผชิญหน้าในทะเลเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่ได้ใช้ความรุนแรง

ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและสหรัฐ ร้อนระอุมากขึ้นในช่วงต้นปีนี้ หลังสหรัฐลอบสังหารพลตรีกัสเซม สุไรมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ สังกัดกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน ด้วยการใช้โดรนโจมตีในอิรัก จากนั้นในวันที่ 8 มกราคม อิหร่านก็ตอบโต้ด้วยการยิงจรวดถล่มฐานทัพไอน์ อัล-อาซัด ในอิรัก ซึ่งมีกองทัพสหรัฐประจำการอยู่ แต่ไม่มีทหารสหรัฐเสียชีวิต หรือไม่ได้รับบาดเจ็บทางกายรุนแรงในทันที แต่ในเวลาต่อมา มีทหารมากกว่า 100 นาย ที่แสดงอาการบาดเจ็บทางสมอง



สำหรับดาวเทียม ซึ่งกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติ ระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ว่า มีชื่อว่า “นูร์” หรือ “แสงสว่าง” (Light) จะขึ้นไปปฏิบัติภารกิจเหนือพื้นโลก 425 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐ แถลงว่า พวกเขากลัวว่า จะเป็นการใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธพิสัยไกล ในการส่งดาวเทียมเข้าสู่วงจร และอาจถูกใช้เพื่อยิงหัวรบนิวเคลียร์ด้วย ส่วนรัฐบาลอิหร่านปฏิเสธคำกล่าวอ้างของสหรัฐที่ว่า เป็นการใช้กิจกรรมดังกล่าวบังหน้าในการพัฒนาขีปนาวุธ และว่า อิหร่านไม่เคยเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แถลงในวันพุธว่า อิหร่านต้องรับผิดชอบสำหรับการปล่อยดาวเทียมทหารดวงแรกของประเทศโดยกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติ ขณะที่ อิหร่านมีองค์การทหาร ซึ่งสหรัฐขึ้นบัญชีดำว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ราย พยายามปล่อยดาวเทียม