15 ราย คือจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ของไทย ณ วันที่ 22 เม.ย.และมีผู้เสียชีวิต 1
เป็นอันดับที่ 55 ของโลก ยอดรวมผู้ป่วย 2,554,568 ราย เสียชีวิต 177,402 ราย สหรัฐอเมริกาเป็นหัวแถว ผู้ป่วย 817,952 ราย เสียชีวิต 45,279 ราย จำนวนผู้ป่วยสะสมของไทย 2,826 คน ผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 49 ราย รักษาหาย กลับบ้านได้ 244 คน ยอดรวม 2,352 คน หรือ83%ของทั้งหมด ที่ยังอยู่ในโรงพยาบาลมีเพียง 425 ราย คนที่ติดเชื้อใหม่ 10 ราย มีประวัติสัมผัสกับคนป่วยก่อนหน้านี้ อีก 3 คนทำอาชีพเสี่ยง เป็นพนักงานโรงแรม, พนักงานขาย, พนักงานขนส่งสินค้า กลับมาจากต่างประเทศ 1 ไปในที่ชุมนุมชนห้างสรรพสินค้า, ตลาดนัด, สถานที่ท่องเที่ยว 1 ราย โดยไม่มีรายงานการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ และผู้กักตัวหลังกลับจากต่างประเทศ(State Quarantines) อธิบายพื้นที่เสี่ยงประเภทที่ชุมนุมชน ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว ที่ 14 วันที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อ84 คน กรมควบคุมโรคแกะรอย ได้ความว่า ในกรุงเทพฯ ได้แก่ สถานบันเทิง สนามมวย สถานที่มั่วสุมเพื่อเล่นการพนัน โรงภาพยนตร์ ซูเปอร์มาเก็ต ฟิตเนส วัด ร้านเสริมสวย มหาวิทยาลัย ร้านอาหาร พื้นที่ท่องเที่ยว เช่น ซอยทองหล่อ ตลาด ห้างสรรพสินค้า การใช้ขนส่งสาธารณะ สถานที่ทำงาน สถานพยาบาล ต่างจังหวัด ก็คล้ายกัน สถานบันเทิง สนามมวย สถานที่มั่วสุมเพื่อเล่นการพนัน ซูเปอร์มาเก็ต ห้างสรรพสินค้าพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต หาดใหญ่ สงขลา ชะอำ สถานที่ทำงาน สำนักงาน สถานพยาบาล ตลาด วัด มัสยิด สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นหญิงไทยวัย 58 มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และภาวะอ้วน มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดคนในครอบครัวที่ป่วย เข้ารักษาตัวด้วยอาการไข้ มีเสมหะ น้ำมูก ขณะรักษามีการหอบเหนื่อย ถ่ายเหลว อาการไม่ดีขึ้น และจากไปในที่สุด คล้ายกับผู้เสียชีวิตรายอื่นก่อนหน้านี้
คุณหมอบอกตอนนี้ กระทรวงกำหนดนิยามใหม่ ไม่ต้องรออาการ ไม่ต้องคิดนานห่วงโน่นนี่นั่น เอาแค่ เคยมีไข้ หรือวัดปรอทได้ 37.5 และแม้ไม่มีไข้ แต่ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหรือหายใจลำบาก เป็นผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ แค่อย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ต้องรอให้ครบ ประกอบกับช่วง 2 อาทิตย์ (14 วัน) เคยไป หรือมาจากพื้นที่เกิดโรคโควิด-19 ทำอาชีพเกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว สถานที่แออัด ติดต่อกับคนจำนวนมาก ไปในสถานที่ชุมนุมชน ที่รวมกลุ่มคนเช่น ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล หรือขนส่งสาธารณะ ทั้งเคยสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด ประมาณนี้ มีอาการ อาชีพ เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ดังว่า ให้รีบหาหมอโดยไม่ลังเล เพื่อช่วยระงับยับยั้งเชื้ออีกทาง เพราะตอนนี้ หลายประเทศในอาเซียนมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น จนนักวิเคราะห์ทั่วโลกหวั่นกันว่า ย่านนี้จะเป็นแหล่งขยายโรคระลอกใหม่
กระทรวงแรงงานก็เร่งรัดจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวเฝ้าระวังให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ป้องกันปัญหาทำนองเดียวกับสิงคโปร์ ที่แรงงานต่างชาติเป็นตัวการแพร่ระบาดจนยอดผู้ป่วยเพิ่มพรวดวันละเป็นพัน มันน่ากลัวจริงๆนะ
กับข้อสังเกตว่า จำนวนผู้ป่วยที่พบน้อย เพราะตรวจน้อยหรือไม่ คุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา2019 ให้ข้อมูลอีกด้านว่า จากการสาวประวัติคนไข้ 542 ราย พบว่าอัตราเฉลี่ยคนมาหาหมอขอตรวจเชื้อ เมื่ออาการผ่านไป 4 วัน ซึ่งก็ยังดี แต่ถ้ามีเชื้อก็แพร่กระจายไป 3 วันแล้ว รายที่มาช้าที่สุดถึง 28 วันก็มี แบบนี้ หากมีเชื้อก็สุ่มเสี่ยงจะส่งต่อถึงไหน ๆ ก็ไม่ทราบ
