ป่วยใหม่แค่ 19 ก็ไม่วางใจ ผ่อนคลายแต่ พรก.ฉุกเฉินยังคุม

2020-04-22 06:00:53

ป่วยใหม่แค่ 19 ก็ไม่วางใจ   ผ่อนคลายแต่ พรก.ฉุกเฉินยังคุม

Advertisement




‘19’ คือ สถิติต่ำสุดของผู้ติดเชื้อรายใหม่โควิด-19 ประเทศไทย ในวันที่ 21เม.ย.63


เป็นวันครบรอบ 1 เดือนพอดี ที่พบผู้ป่วยใหม่ทำสถิติสูงสุดถึง 188 คน เมื่อวันที่ 21 มี.ค.63 และเป็นตัวเลขต่ำกว่า 20 เป็นครั้งแรก






ถ้าจะส่งเสียงเฮ ก็ดูดี ๆ ในรัศมี 2 เมตรไม่มีคนอยู่ใกล้ จะได้ไม่แพร่เชื้อ




รายใหม่ส่วนใหญ่ 10 ราย ติดจากผู้ป่วยเดิม ไปที่ชุมนุมชน ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 2 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง 1 ไปร่วมพิธีทางศาสนา 1 และจากการตรวจหาในเชิงรุก 4 ราย


รวมผู้ป่วยสะสม 2,811 ราย ใน 68 จังหวัด


มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย (รวม 48 ราย) เป็นชายไทยอายุ 50 ปี อาชีพขับแท็กซี่ มีโรคประจำตัว เบาหวาน มีประวัติเสี่ยงรับส่งผู้โดยสารไปสนามมวยลุมพินี เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลด้วยอาการไข้สูง ปวดเมื่อย หายใจไม่เต็มอิ่ม มีเสมหะ เสียชีวิต วันที่20 เม.ย.63


ฟังจากคุณหมอ การลดลงของผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่ต่อเนื่อง เป็นผลจากมาตรการเมื่อ 14 วันที่แล้ว ดังนั้น ทุกการกระทำหรือมาตรการที่ผ่อนปรน เริ่มวันไหน จะไปเห็นผลก็อีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า การจะหย่อนคลายกฎเกณฑ์ใด ๆ จึงต้องคิดให้หนัก ทั้งนี้ มีตัวอย่างจากบางประเทศใกล้ๆบ้านเรา ให้เห็นการระบาดซ้ำที่พุ่งพรวด ๆ และยากจะดึงกลับลงมา


มีข้อมูลจำแนกอาชีพของผู้ป่วยโควิดให้เห็นความเสี่ยงว่า กลุ่มรับจ้างทั่วไป ฟรีแลนซ์ สูงสุด ถึง 395 ราย รองลงมา เป็นพวกค้าขาย ธุรกิจส่วนตัว 308 ราย อันดับ3 พนักงานบริษัท โรงงาน 235 ราย อันดับ 4 พนักงานในสถานบันเทิง 176 อันดับห้า เป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา 164 ราย


พิจารณาจากอาชีพ ประเมินได้ว่าเป็นวัยรุ่น วัยทำงานที่เคลื่อนไปมาตลอดเวลา


ส่วนความคาดหวัง อยากให้ ลดหย่อนความเข้มของมาตรการต่าง ๆ ลง มีบางรายกะเก็งกันว่า 1 พ.ค.63 นี้ แม้ไม่ถึงขั้นยกเลิกประกาศสถานการณ์ ก็คงผ่อนคลายให้ทำอะไรได้เยอะ แต่ต้องฟัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า จะพิจารณาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินวันอังคารหน้า (28 ม.ย.63) ความร่วมมือของทุกฝ่ายจะเป็นตัวชี้วัดการผ่อนปรน




นายกฯ บอก แม้การติดเชื้อรายใหม่จะลดลงต่อเนื่องมาหลายวัน ก็ต้องดูต่อไป อย่าผลีผลาม การเรียกร้องก็ต้องระวัง ฟังจากกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาว่ามีมาตรการอื่นรองรับเพียงพอหรือไม่ การตัดสินใจต้องไม่เป็นไปโดยแรงกดดัน ว่ากันตามข้อเท็จจริง การทำเร็ว ถ้าเกิดการระบาด สิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะล้มเหลว .... ถ้าร่วมมือกันมาก ผู้ป่วยใหม่ลดมาก การผ่อนปรนก็มาก ในประกาศฯ ไม่ได้บอกว่าจะผ่อนปรนวันที่ 1 จะต้องดูสถิติ ผู้ประกอบการต้องบอกด้วยว่า จะทำอะไรบ้าง การจัดเตรียมสถานที่ มีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ มีเว้นระยะห่างหรือไม่ จึงไม่บอกว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ ถ้าไม่เหมาะก็ไม่เปิด ทราบว่าเดือดร้อน แต่ที่เดือดร้อนกว่านั้นคือเรื่องสุขภาพ ถ้าระบาดมากกว่านี้จะเรียกกลับมาไม่ได้


เข้าใจนะ !


อย่างไรก็ดี มีประเด็นใหม่ ที่อาจต้องคิดมากขึ้น จะให้น้ำหนักกับฝ่ายคุณหมอต่อไปสักกี่ขีด เนื่องจากรายงานล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า การส่งออกเดือน มี.ค.63 มูลค่า 22,405ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 4.17% สูงสุดในรอบ8เดือน การนำเข้าก็ขยายตัว 7.25% ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ที่มีสัญญาณการฟื้นตัว มีอัตราการขยายตัวถึง 17.59% ต่อเนื่องมาแล้ว4 เดือน


งานคือเงิน เงินคืองาน จ่อรอคนไปทำอยู่นะ


บางสายการบินก็วางแผนจะเหินฟ้าวันที่ 1 พ.ค.นี้แล้ว


เอ้า...สู้ไปด้วยกัน...ประเทศไทยต้องชนะ!!!