เหยื่อโควิด-19 ในเอกวาดอร์ ดับเพิ่มเกินหมื่น ศพยังถูกทิ้งข้างถนน

2020-04-21 08:25:29

เหยื่อโควิด-19 ในเอกวาดอร์ ดับเพิ่มเกินหมื่น ศพยังถูกทิ้งข้างถนน

Advertisement


เอกวาดอร์รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 เมื่อวันจันทร์ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 10,000 คน สูงสุดเป็นอันดับ 4 ในลาตินอเมริกา รัฐบาลเอกวาดอร์เริ่มเก็บศพของเหยื่อไวรัสไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นขนาดใหญ่แล้ว ขณะที่มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนในเมืองกัวยากิล ศูนย์กลางการระบาดของไวรัส ถูกเก็บไว้เต็มสถานที่เก็บศพและโรงพยาบาลจนที่เก็บไม่พอ การระบาดของไวรัสมรณะในประเทศแห่งเทือกเขาแอนดีสแห่งนี้ ท่วมทับระบบสาธารณสุขของประเทศ ในบางพื้นที่ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเก็บศพหรือหาที่เก็บศพเหยื่อไวรัสได้ และบีบให้รัฐบาลต้องเก็บศพไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นไว้ชั่วคราว

แม้แต่รันเวย์ของอดีตท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกีโต ซึ่งถูกเปลี่ยนมาใช้เป็นสวนธารณะ จะเป็นศูนย์กลางใช้เป็นสถานที่เก็บศพ หากมีผู้เสียชีวิตมากขึ้นในกรุงกีโต เมืองหลวงของประเทศ ขณะที่ จังหวัดปีชินชา ซึ่งมีกรุงกีโตเป็นเมืองเอกด้วย มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ



การระบาดของไวรัสร้าย ทำลายเศรษฐกิจของเอกวาดอร์ ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเสียหายอย่างหนัก โดยการระบาดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเมืองกัวยากิล เมืองใหญ่สุดของประเทศ ทำให้มีศพอีกจำนวนมากตกค้างอยู่ภายในบ้าน หรือถูกทิ้งอยู่บนถนน ทั้งนี้ เอกวาดอร์พบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะคนแรกเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ และในอีก 24 วันต่อมา ก็พุ่งเป็น 1,000 คน จากนั้นอีกเพียง 7 วัน ก็เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าเป็น 2,000 คน และอีก 8 วันต่อมาก็เพิ่มอีก 2 เท่าเป็น 4,000 คน และเพิ่มอีก 2 เท่าเป็น 8,000 คนในอีก 8 วันต่อมา รวมตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ ขณะนี้อยู่ที่ 10,128 คน

กระทรวงสาธารณสุขของเอกวาดอร์ แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 507 คน แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่า น่าจะมีผู้เสียชีวิตอีก 826 คนจากไวรัส แต่จำนวนนี้ยังไม่ได้มีการยืนยัน



ชาวเอกวาดอร์ ซึ่งมีอาการป่วยเรื้อรัง เช่นโรคมระเร็ง และไตวาย กำลังดิ้นรนต่อสู้ในการรับการรักษา ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะอุปกรณ์พื้นฐานทางการแพทย์ ไม่เพียงพอ และโรงพยาบาลต้องระงับการให้บริการบางอย่างเพื่อลดการติดเชื้อไวรัสมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองกัวยากิล ที่มีการระบาดหนักที่สุด

คริสตินา เฟรร์ โฆษกหญิงของศูนย์รักษาโรคไต กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 100 คน ในช่วง 3 สัปดาห์ เนื่องจากไม่ได้ฟอกไต แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลก็ไม่ได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

จำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในเอกวาดอร์ แม้ว่าจะมีการคุมเข้มการเดินทาง และกักบริเวณ ซึ่งถูกบังคับใช้เป็นเวลา 1 เดือน โดยนายซาเวียร์ โซโลร์ซาโน รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขของเอกวาดอร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างแถลงข่าวว่า ตราบใดที่ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการกักตัวอย่างเคร่งครัด เอกวาดอร์จะสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้

ประธานาธิบดีเลนิน โมเรโน ผู้นำเอกวาดอร์ เสนอตั้งกองทุนช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งจะเจียดเงินผลกำไร 5 เปอร์เซ็นต์จากบริษัทที่มีรายได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 มาเข้ากองทุน และจะเก็บภาษีพนักงานที่มีเงินเดือนมากกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ ยังต้องผ่านความเห็นชอบในรัฐสภา



ในลาตินอเมริกา มีเพียงบราซิล, เปรูและชิลีเท่านั้นที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่าเอกวาดอร์