จากส.ส.-ส.ว.ถึง 20 เจ้าสัว ความตระหนักที่ไม่ต้องร้องขอ

2020-04-18 14:25:08

จากส.ส.-ส.ว.ถึง 20 เจ้าสัว  ความตระหนักที่ไม่ต้องร้องขอ

Advertisement


ไม่ใช่เรื่องผิดคาดหมาย หากสุดท้ายแล้ว กลายเป็นว่าข้อเรียกร้องให้ส.ส. ส.ว. รวมถึงข้าราชการการเมือง สละเงินเดือนเข้ากองทุนเพื่อช่วยเหลือและรับมือโควิด 19

กลายเป็นว่า มีเพียง"เต้"มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ แห่งพรรคไทยศรีวิไลย์ คนเดียว ที่แสดงเจตนารมย์และแจ้งต่อเลขาธิการสภาฯ ให้หักเงินเดือนทุกเดือนจนครบวาระสภาฯ ตามข้อเรียกร้องนี้




ส่วนส.ส.คนอื่นๆ อย่างมากก็แค่สละไม่รับเงินเดือน 1 เดือนให้ท้องถิ่นไปจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ป้องกัน เช่น เจล เครื่องฉีดพ่นฆ่าเขื้อ หรือชุด PPE ให้กับโรงพยาบาล หรือหักงบบางส่วนในกรรมาธิการที่ตนเองสังกัดอยู่ เพื่อช่วยเหลือ


แต่ส่วนใหญ่อ้างเหตุผลส.ส.คลุกคลีช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็ควักเงินส่วนตัวจ่ายค่าโน่นค่านี่ประจำ ชนิดจ่ายมากกว่าเงินเดือนที่ได้ด้วยซ้ำ


พูดง่ายๆคือไม่โอเค อย่ายื่นข้อเสนอหักเงินเดือนซะให้ยาก


ส่วนส.ว.ที่โดนกดดันไม่แพ้กัน ส่วนใหญ่ก็อิดออดไม่แพ้กัน อ้างส.ว.ก็ลงพื้นที่พบปะช่วยประชาชนเหมือนกัน บางคนอ้างส.ว.ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกันทุกคน กระทั่งนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ต้องเร่งหาทางออกโดยให้ส.ว.สละเงินคนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท เพื่อส่งมอบเข้ากองทุน ช่วยสยบกระแสเรื่องนี้ไปได้




นอกนั้นก็มีผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่เป็นส่วนน้อยที่ประกาศสละเงินเดือนตัวเอง


ไม่น่าเชื่อว่า จากข้อเรียกร้องเรื่องจิตสำนึกและให้ร่วมแสดงความรับผิดชอบในฐานะตัวแทนประชาชน กลับกลายเป็นเรื่องความสมัครใจ พร้อมข้ออ้างสาระพัดสาระพัน


ทั้งที่เป็นช่วงเวลาวิกฤติของบ้านเมือง ประเทศชาติกำลังคับขัน ต้องการความร่วมไม้ร่วมมือและความเสียสละเพื่อหาทางฝ่าฟันให้ก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากไปให้ได้ ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็สอดคล้องกับที่ส.ส.และนักการเมืองท้องถิ่นช่วงมีการหาเสียงเลือกตั้ง ต่างก็ประกาศปาวๆว่าต้องการอาสาเข้าไปทำงานเพื่อประเทศชาติและส่วนรวม


แม้ส่วนหนึ่งอาจรู้สึกผิดหวังจากท่าทีและการแสดงจุดยืนของส.ส. ส.ว. และข้าราชการการเมืองส่วนใหญ่ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผู้คนก็ได้เห็นการเสียสละร่วมบริจาคเงินสดและอุปกรณ์รักษาคนป่วยโควิด 19 ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งดาราและคนในแวดวงบันเทิง อาทิ เบลล่า -ราณี ญาญ่า-อุรัสยา แต้ว-ณฐพร ณเดชน์ คูกิมิยะ และอีกหลายคน ง


เช่นเดียวกับคนในวงการกีฬา อาทิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลไทย คณะกรรมการกีฬามวย รวมถึงนักมวยบางคนที่บริจาคเงินส่วนตัวสมทบ นอกจากนี้ ยังมีเศรษฐีใจบุญคนหน้าเดิมอย่างจิมมี่ ชวาลา แห่งจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มอบทั้งผ้าสำหรับทำหน้ากากอนามัย 1 หมื่นหลา และชุด PPE สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ มูลค่า 5 แสนบาท และเศรษฐีระดับท้องรวมถิ่น รวมทั้งคนใจบุญอีกจำนวนหนึ่ง ที่ต่างเสียสละคนละเล็กละน้อย หรือทำอาหารแจกจ่ายให้กับผู้ได้รับผลกระทบและเดือดร้อน


แต่ที่ขาดหายไป กระทั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงขั้นต้องเอ่ยปากเชิญชวนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมไทยแลนด์ เพื่อร่วมฝ่าฟันวิกฤติไปด้วยกัน คือบรรดาเจ้าสัวเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐี 20 อันดับแรก ซึ่งแทบจะครอบคลุมกลุ่มธุรกิจและมีมูลค่ามากกว่า 90% ของทรัพย์สินของคนทั้งประเทศรวมกันด้วยซ้ำ






มหาเศรษฐี 20 อันดับแรก นำโดยตระกูลเจียรวนนท์ แห่งค่ายซีพี


เจ้าสัวเฉลิม อยู่วิทยา ค่ายกระทิงแดง เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งค่ายไทยเบฟเวอเรจ ตระกูลจิราธิวัฒน์ แห่งค่ายเซ็นทรัล สารัชถ์ รัตนาวะดี แห่ง ค่ายกัลฟ์ เอ็นเนอร์ยี่ฯ เป็นต้น


เจ้าสัวเหล่านี้ (รวมทั้งที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ)ส่วนหนึ่งมั่งคั่งมาจากการผูกขาด บางรายมักได้อานิสงส์จากนโยบายของรัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมา รวมกระทั่งชุดปัจจุบัน บางราย ทายาทหนีคดีซิ่งรถยนต์หรูชนนายดาบตำรวจดับ ยังหลบหนีจนถึงขณะนี้ ขณะที่บางรายประกาศตั้งโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยแจกฟรี เพิ่งเปิดเดินเครื่องผลิตสินค้าล็อตแรกไปหมาดๆ แต่ไม่วายถูกตั้งข้อสังเกตุว่า ควักเงินลงทุนครั้งนี้ เพราะหากคนยังขาดหน้ากากอนามัย และติดเชื้อโควิด 19 จำนวนมาก จะส่งผลกระทบถึงรายได้จากการซื้อสินค้าของประชาชนที่มีต่อกิจการของเครือบริษัท


ไม่ว่าจะอย่างไร การแสดงออกถึงน้ำใสใจจริง การร่วมรับผิดชอบจากสามัญสำนึก โดยไม่จำเป็นต้องถูกถามหาหรือเชิญชวน ถือเป็นเรื่องดีงามที่สุด และสมควรได้รับการยกย่องที่สุดในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้


อย่านิ่งเงียบ แบบทองไม่รู้ร้อน หรือไม่แสดงออกใดๆ แบบไม่ดูดำดูดี


อย่างนี้ ดูแล้วน่ารังเกียจ ไม่น่ารักเลยจริงๆครับ