วันที่ 25 มีนาคม 2560 เวลา 09.00น. กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ซึ่งยังน่าเป็นห่วง สิ่งที่พบมีดังนี้
1. พบฝุ่นละอองสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 3 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง เชียงราย และแม่ฮ่องสอนโดยค่าสูงสุดที่ตรวจวัดได้ อยู่ที่ ต.เวียงพาคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย (168 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
2. สาเหตุของหมอกควัน การลักลอบเผาเพื่อหาของป่า ล่าสัตว์ และการเตรียมพื้นที่เกษตร
3. คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า บริเวณภาคเหนือจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน ไม่มีฝนในพื้นที่ ทำให้ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หากเกิดสถานการณ์ไฟป่า หรือการเผาในพื้นที่ ก็จะส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ในช่วงระหว่างวันที่ 25-29 มีนาคม 2560 บริเวณอากาศแปรปรวนที่ภาคเหนือ และมีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อน มีลมกรรโชคแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ อาจทำให้ปริมาณฝุ่นในบรรยากาศลดลงได้เล็กน้อย
4. กรมควบคุมมลพิษ จึงขอให้ทุกจังหวัดระดมสรรพกำลังเฝ้าระวังการเกิดไฟ และดับไฟอย่างต่อเนื่อง รวมถึงควบคุมกิจกรรมอื่นๆที่อาจทำให้เกิดฝุ่นขึ้นในพื้นที่ และขอให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าที่เริ่มสูงขึ้นและแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ รวมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนในการงดเผาป่าและเศษวัสดุการเกษตรในช่วงนี้ต่อไป
ทางด้านนายระพีศักดิ์ มาลัยรุ่งสกุล ผู้อํานวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1จังหวัดเชียงใหม่ บอกถึงสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ ว่า ช่วงนี้จังหวัดทางภาคเหนือ เกือบทั้งหมดมีค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน หรือ PM10 เกินกว่ามาตรฐานที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแล้ว โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ มีค่า PM10 เกินค่ามาตรฐานพอสมควร ปัจจัยมาจากการลักลอบเผาในพื้นที่ประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน และทิศทางลม รวมไปถึงสภาพภูมิประเทศที่หลายพื้นที่เป็นแอ่งกระทะมีภูเขาล้อมรอบ ประกอบกับความกดอากาศสูง ทำให้สภาวะอากาศนิ่ง แต่ปัจจัยสำคัญในช่วงนี้คือควันจากประเทศเพื่อนบ้านที่ลมพัดเข้ามาสู่ประเทศไทย