2 ทายาทลูกทุ่งเสียงสวรรค์ "บูม ชญาภา- เสเบนซ์ รุ่งสว่าง" ส่งกำลังใจผ่านเสียงเพลงฝ่าภัยโควิด (มีคลิป)

2020-04-12 12:50:17

2 ทายาทลูกทุ่งเสียงสวรรค์ "บูม ชญาภา- เสเบนซ์ รุ่งสว่าง" ส่งกำลังใจผ่านเสียงเพลงฝ่าภัยโควิด (มีคลิป)

Advertisement

เชื่อว่าพี่น้องคนไทยทั้งใน กทม. และต่างจังหวัดคงถูกผลกระทบจากภัยร้ายโควิด - 19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งช่วงนี้ทางการก็เร่งรณรงค์ให้ทุกๆ คนงดการเดินทางไปพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคติดเชื้อ กักบริเวณตัวเองอยู่ที่บ้าน จนหลายๆ คนเบื่อการต้องจำเจเพราะไม่มีกิจกรรมทำ



วันนี้ บันเทิง NEW 18 ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 2 ศิลปินทายาทคนบันเทิง "น้องบูม - ชญาภา พงศ์สุภาชาคริต" ซึ่งเป็นลูกสาวของคุณพ่อ "ชูษี เชิญยิ้ม" และอดีตภรรยา "นก วนิดา" หรือ "นก เชิญยิ้ม" สองดาวตลกชื่อดัง กับ "เสเบนซ์ - สิรภพ รุ่งสว่าง" ลูกชายแท้ๆ ของ "เสรี รุ่งสว่าง" ราชาเพลงลูกทุ่ง กับผลกระทบในช่วงโควิด - 19 ระบาด และทั้งสองยังเล่าย้อนถึงที่มาที่ไปกว่าจะได้มาเป็นศิลปินในค่ายไผ่ร้อยกอของ "ครูพยัพ คำพันธุ์" แต่ใครจะเชื่อว่าสายเลือดศิลปินจะถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้ขนาดนี้ 




น้องบูมอายุเท่าไหร่เอ่ย ?
บูม : อายุ 27 แล้วค่ะ



ผลงานเพลงเดี่ยวชื่อว่าอะไร ?
บูม : ชื่อว่า "บุหรี่อารมณ์" ค่ะ ผลงานการผลิตของค่าย ไผ่ร้อยกอโปรดักชั่น



เริ่มต้นร้องเพลงตั้งแต่อายุเท่าไหร่เอ่ย ?
บูม : ตั้งแต่จำความได้ก็เริ่มร้องเพลงเลยค่ะ แต่ร้องบนเวทีลิเก เพราะยายเราเล่นลิเก ถึงเวลาเขาจะร้องเพลงกัน ยายก็ให้หนูขึ้นไปร้อง เอารางวัล



แล้วตัวเราเล่นลิเกไหม ?
บูม : ตัวหนูไม่ได้เล่น เพิ่งมาเล่นตอนโต แต่ก็ไม่ได้ยึดเป็นอาชีพ แค่อยากจะอนุรักษ์สมบัติของยายเอาไว้



เห็นว่าตอนเด็กๆ มีการเดินสายอยู่หลายเวที ?


บูม : มีค่ะ มีตามโรงเรียน ครูก็จะส่งประกวดอยู่แล้ว แต่ว่าประกวดทางทีวีเนี่ย หนูจะไม่ค่อย จะมาร่วมประกวดทางทีวีตอนที่แม่เริ่มมีปัญหา เพราะตอนนั้นแม่ทำงานไม่ได้เราก็เลยต้องทำ เพื่อที่จะมีโอกาสได้ทำงานช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในบ้าน

แล้วเราเคยมีผลงานร่วมกับคุณพ่อบ้างไหม ?
บูม : มีนะคะ ตอนเด็กๆ ก็มีคุณพ่อทำเพลง แต่เขาไม่ได้โปรโมต เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงน้ำท่วมพอดีปี 54 แผงซีดีก็ลอยไปกับน้ำเลยค่ะ คือเราทำอัลบั้มเรียบร้อยแล้วด้วย ทุกอย่างก็เลยเงียบไปเลย สำหรับงานเพลงตอนเด็กๆ นะคะแล้วก็มีแสดงละครค่ะ เรื่องชาติลำชี ช่อง 7 และก็มีภาพยนตร์ตอนนั้น "ลุงโน้ต" ทำโปรเจกต์ลูกตลก เรื่องลูกตลกตกไม่ไกลต้น



ตอนนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดมีผลกระทบอะไรกับเราบ้างไหม


บูม : มีค่ะ เพราะว่าหลายๆ งานที่เราต้องโดนยกเลิกไปแทบทั้งเดือนเลย ตอนนี้เราว่างยาวเลยค่ะ แต่ว่าก็เพื่อส่วนรวม เราก็ต้องเซฟตัวเองและทุกๆ คนค่ะ

มาที่น้องเบนซ์ตอนนี้อายุเท่าไหร่เอ่ย ?
เสเบนซ์ : ตอนนี้ 27 ย่าง 28 ครับ เรียนจบเรียบร้อยแล้วครับ

ตอนนี้ได้มาทำเพลงลูกทุ่งเต็มตัว คุณพ่อ เสรี รุ่งสว่าง ได้มาดูแลเรื่องการร้องเพลงบ้างไหม ?
เสเบนซ์ : ก็ดูแลครับ ยังคอยมาบอกเรื่อยๆ

ในส่วนของการร้องเพลงของเราเนี่ย เราไปเรียนมาหรือว่าเราเรียนรู้จากคุณพ่อ ?
เสเบนซ์ : ถือว่ามาจากความชอบล้วนๆ เลย จริงๆ แล้วไม่ได้เรียนเลยครับ แต่ว่ามันซึมซับมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อก่อนพ่อคุณให้คุณป้าคนหนึ่งเลี้ยงครับ แล้วคุณป้าจะเปิดเพลง ไม่ว่าจะทำงานบ้าน กินข้าว นอนหรือว่าจะทำกับข้าวเขาก็จะเปิดเพลงครับ มันก็เลยซึมซับเข้ามาเอง

น้องเบนซ์ก็มีวงเป็นของตัวเองด้วยถูกไหม ?
เสเบนซ์ : ครับ ก็เคยมีนะครับตอนสมัยวัยรุ่นครับ แต่ตอนนี้มารับของค่ายไผ่ร้อยกออย่างเดียวเลยครับ เดินสายกับไผ่ร้อยกอ



ผลงานล่าสุดคืออะไร ?
เสเบนซ์ : ผลงานเพลงของผมชื่อว่า "เข้าเวรรักเข้าเวร" ครับ เป็นบทประพันธ์ของอาจารย์พยัพ คำพันธุ์



แล้วน้องเบนซ์กับน้องบูมมีผลงานคู่กันไหมเอ่ย ?
บูม : จริงๆ แล้วเพลงของเราเนี่ย สมมุติว่าเบนซ์ร้องเพลงนี้ฝ่ายผู้หญิงอย่างบูมก็มาลองแก้ได้ค่ะ คือเราทั้งสองคนก็มีขึ้นโชว์พร้อมกันด้วยค่ะ 

ถามน้องเบนซ์ต่อนะ ผลงานสร้างชื่อที่ทำให้คนรู้จัก "เสเบนซ์ รุ่งสว่าง" เนี่ยเป็นผลงานอะไร ?
เสเบนซ์ : ตอนนี้ผมยังไม่ได้มีผลงานที่สร้างชื่ออะไรขนาดนั้นครับ แต่ว่าตอนนี้ก็เริ่มสร้างเริ่มทำเพลงขึ้นมานำเสนอ ป๋าพยัพ คำพันธุ์ เอาพวกผมมาร้องมาอัดเพลง เป็นซิงเกิลใหม่ๆ ครับ เป็นเพลงที่ยังไม่เคยมีใครได้ฟังมาก่อน

มีการ Cover เพลงของรุ่นพี่บ้างไหม ?
เสเบนซ์ : อ๋อจะมีเพลงของคุณพ่อนะครับที่ผมเอามาร้อง



ได้ข่าวว่าเสียงเหมือนคุณพ่อมากๆ ...
เสเบนซ์ : ใช่ครับ ก็มีคนที่เขาพูดมาแบบนี้เหมือนกัน (หัวเราะ)

แล้วรายการกิ๊กดู๋นี่ยังไงเอ่ย ?
เสเบนซ์ : รายการกิ๊กดู๋ผมได้แชมป์ครับ แชมป์เงาเสียงคุณพ่อเสรี ก็เลยอาจจะเป็นที่รู้จักกันในนั้นน่ะครับว่าเป็นลูกชายของคุณพ่อเสรี รุ่งสว่าง



กดดันไหม เวลามีคนมาบอกว่าเนี่ยเป็นลูกของศิลปินระดับต้นๆ ?
เสเบนซ์ : กดดันเหมือนกันครับ เพราะว่าพ่อเรา เขาอยู่สูงครับ เรียกได้ว่าเป็นราชาลูกทุ่งไปแล้วครับ เราเป็นลูกเราก็อยากจะตามรอยคุณพ่อให้ดีได้เท่าคุณพ่อครับ ต้องทำให้ดีที่สุดครับ

น้องบูมล่ะ คุณพ่อเป็นนักแสดงแล้วก็มีความสามารถหลายๆ ด้านน้องบูมกดดันบ้างไหมเอ่ย ?
บูม : เป็นลูกคุณพ่อ กดดันอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าเราเกิดมาเรามีพื้นฐานดีคนอื่น คนอื่นเขาก็ไม่ได้มีพ่อแม่ในวงการบันเทิงแต่หนูมีทั้งคุณพ่อคุณแม่อยู่ในวงการ เพราะฉะนั้นบางทีเราก็กลัวถ้าเกิดเราทำอะไรไม่ดี หมายถึงเนื้องานนะคะ คนก็จะตำหนิว่าเราเป็นเด็กเส้นหรือเปล่า ทำไมถึงมีได้ผลงานได้ เราอยู่ในวงการบันเทิง ความกดดันก็มีอยู่ตรงนี้ค่ะ เหมือนกับทำดีก็เสมอตัว แต่ถ้าไม่ดีคือต้องโดนแน่ๆ ค่ะ

อย่างโลกโซเชียลตอนนี้คอมเมนต์ค่อนข้างรุนแรง เราเวลาโดนเข้ามาเนี่ย รู้สึกอะไรบ้าง ?
บูม : ก็รู้สึกนิดนึงค่ะ



ปล่อย MV มาช่วงนึงแล้ว เป็นยังไงบ้าง ?
บูม : ดีค่ะ กระแสดีกว่าที่คิด ตอนนี้ทุกๆ คนก็มีมิวสิกวิดีโอเป็นของตัวเองแล้วค่ะ ทุกเพลงอยู่ใน Channel ไผ่ร้อยก่อ Production นะคะ

ฝากผลงานหน่อย ...
บูม : ก็อยากฟังเพลง "บุหรี่อารมณ์" และผลงานของศิลปินค่ายไผ่ร้อยกอทุกๆ คนเลยอยากให้ช่วยกันอนุรักษ์และสืบสานเพลงลูกทุ่งให้คงอยู่เอาไว้ เพราะปัจจุบันเพลงลูกทุ่งค่อนข้างเลือนรางหายไปแล้ว ดังนั้นหนูมองว่าอยากให้น้องๆ รุ่นใหม่อนุรักษ์และอยากให้น้องๆ เอาเพลงของพวกเราลองประกวดดู เราเชื่อว่าเพลงของพวกเรานำขึ้นไปประกวดเวทีต่างๆ ได้ เป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในการประกวด เป็นแนวทางเป็นทางเลือกให้กับน้องๆ รุ่นใหม่ๆ ค่ะ



แล้วน้องเบนซ์มีอะไรที่จะฝากไหมเอ่ย ?
เสเบนซ์ : ก็เช่นกันครับ อยากฝากผลงานของค่ายไผ่ร้อยกอครับ ป๋าพยัพ คำพันธุ์ ตั้งใจทำทุกๆ เพลงและพวกผมก็ตั้งใจทำงานกันมากๆ ค่ายเราเป็นค่ายเพลงลูกทุ่งแท้ๆ จริงๆ ที่หาฟังยากมากครับ ขอฝากผลงานเพลงของพวกเราค่ายไผ่ร้อยกอเอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยครับ

ได้ข่าวว่าป๋าพยัพแต่งเพลงได้เร็วมาก ?
เสเบนซ์ : คือป๋าจะเป็นอารมณ์แบบ ถ้าแกมีอารมณ์แต่งเพลงเนี่ยแกเขียนแป๊บเดียว แบบแกคิดขึ้นได้ แกก็จะเขียนขึ้นมาเลยครับ เขียนๆ เสร็จก็ได้เป็นเพลง แล้วก็เรียกเราเข้ามาต่อเพลงครับ โดยใช้วิธีดั้งเดิมครับเหมือนเพลงเสรีขอพรที่แต่งให้คุณพ่อเสรีร้อง ป๋าเล่าให้ฟังว่า แต่งเสร็จปุ๊บ ก็รีบปลุกพ่อขึ้นมาเลยครับ เฮ้ย ! ลุกขึ้นมาหน่อยมาต่อเพลงเสรีขอพรกันเว้ย ก็อัดเพลงในวันนั้นเลยครับ เราไม่คิดว่าเพลงนี้จะดังจนทำให้คุณพ่อนี่กลับมาเป็นเบอร์หนึ่งอีกครั้งนะครับ

ร่วมงานกับป๋าพยัพ คำพันธุ์ นี่กดดันไหม ครูพยัพดุไหม ?
บูม : ไม่เลยค่ะ เพราะว่าเขาจะสอนมากกว่า อย่างบูมจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเพลงและเรื่องวิธีการเอื้อนให้มันพอดีเราจะติดจากการฟังลิเกค่อนข้างเยอะ ที่นี้ก็ได้ป๋าช่วยบอกช่วยสอน และเพื่อนๆ อย่างพี่เบนซ์, แจ๊ค ธนพล ก็จะช่วยสอนทำให้การทำงานดีขึ้นค่ะ ง่ายขึ้นมากค่ะ



พวกเราอยู่ค่ายไผ่ร้อยกอเนี่ยเป็นยังไงบ้างเอ่ย ความรู้สึกตอนนี้ ?
บูม : ก็โอเคนะคะ เราเหมือนกับว่าเราทำงานกับคนที่มีความสุขเราก็มีความสุขไปด้วย แต่ว่าบริษัทเราก็เพิ่งจะเริ่มต้นก็อยากจะฝากกับทุกๆ คนนะคะ ถ้าแฟนๆ ซัพพอร์ตเรา เราก็จะมีผลงานดีๆ ให้ทุกคนได้ฟังเยอะๆ ค่ะ

ตอนนี้เวลาไปออกงานเนี่ยเราไปเป็นกลุ่มหรือว่าไปเดี่ยวๆ ?
บูม : ของพวกเราเนี่ยมีแบรนด์ของตัวเองค่ะ นักดนตรีก็จะใช้ของแบรนด์วงดนตรีของค่ายเรา หรือถ้าไปแบบแบ็กกิ้งแทร็กก็ได้ สามารถติดต่องานได้ตลอดค่ะ