"เฟี้ยวฟ้าว" เล่าเรื่องสะพรึง ฝันถึง "โอ วรุฒ" มาบอกเรื่องบางเรื่อง ทั้งๆที่ตนเอง ไม่เคยทราบมาก่อน พอไปถามพี่ "นีโน่ เมทนี" ทำเอาต้องเหวอ เพราะที่ฝันมันตรงเผง เผยเพราะตนเองปฏิบัติธรรมและทำบุญบ่อย ระยหลังๆ เลยสัมผัสเรื่องลี้ลับได้ 
"เฟี้ยวฟ้าว สุดสวิงริงโก้" เปิดใจเรื่องที่ตนเองไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ต้องเชื่อ เมื่อฝันว่าเจอ โอ วรุฒ ซึ่งเคยร่วมงานกันในวงการ มาสื่อบอกอะไรบางอย่างกับตนเอง โดยเจ้าตัวเผยเรื่องราวผ่านรายการ แฉ ว่า
มดดำ : เขาบอกว่าเธอสื่อสารได้กับ โอ วรุฒ จริงหรือ?
เฟี้ยวฟ้าว : พี่โอ วรุฒ เขาเป็นคนเชียงใหม่เหมือนกับหนู ถ้าถามว่าสนิทมั้ย ไม่ได้สนิทกันเลย เคยแค่ไปร่วมงานเดียวกัน เป็นงานของพี่โน่ (นีโน่ เมทนี) ก็เจอกันบ่อย ปกติหนูจะสวดมนต์ทุกคืนอยู่แล้ว อยู่ดีๆ เขาก็มาเข้าฝัน ในฝันเขาบอกว่า อิม พี่ได้ไปเมืองนอกน่ะ หนูก็ตอบไปว่า อ๋อ พี่ไปเมืองนอกเหรอ งั้นพี่ไปคนเดียวนะ มันเป็นในฝันน่ะ ไม่ไหวหรอกพรุ่งนี้หนูต้องไปทำงาน เขาก็บอกไปๆเดี๋ยวไปด้วยกัน ในฝันหนูก็นั่งเรือไปกับเขา หนูก็บ่นว่า พี่โอทำไมพาหนูไปไกลขนาดนี้ล่ะ เขาตอบว่า พี่เป็นห่วงคนที่อยู่เมืองนอก เราก็ตอบ อ้าวเหรอ! พี่ห่วงคนที่อยู่เมืองนอกเหรอ ซึ่งอันนี้หนูไม่รู้เลยนะว่าใคร (มดดำ กระซิบว่ารู้คนนั้นคือใคร) แล้วหนูก็ถามว่า แล้วให้หนูไปบอกพี่โน่ดีมั้ย เอ๊ะ! แล้วทุกคนจะเชื่อหนูมั้ย ทุกคนต้องบอกว่าหนูไม่เต็มแน่เลย
เสร็จแล้วพี่โอเขาก็ไปนั่งตรงโขดหิน มีปลา มีน้ำใสๆ เขาก็บอก อิม พี่มองไม่เห็นทางที่จะเดิน หนูก็บอกว่า "พี่เดินตามหนูมาสิ หนูจับมือพี่อยู่" เขาก็บอกว่า "แล้วถ้าอิมไป พี่เดินตรงไหนอ่ะ" หนูถามว่า "อ้าว! แล้วพี่ไม่เคยทำบุญเหรอคะ" เขาก็บอกว่า "พี่มองไม่เห็น" คือเขาก็ไม่ได้ตอบหนู "งั้นทำไงดีล่ะ งั้นหนูทำบุญให้พี่ บอกให้พี่โน่ทำบุญให้พี่ดีกว่า"
เสร็จปุ๊บพอตื่นขึ้นมา หนูก็เล่าเรื่องนี้ให้ผู้จัดการหนูฟัง "ถ้าอิมบอกกับคนอื่น เขาต้องบอกว่าอิมเวอร์แน่เลย แต่อิมก็ต้องบอก เพราะเขาก็เคยร่วมงานกัน รู้จักกัน" 
มดดำ : เมื่อก่อนเธอเคยร่วมงานกับทีวีธันเดอร์ เธอทำงานด้วยกันบ่อยไม่ใช่เหรอ?
เฟี้ยวฟ้าว : ใช่ค่ะ ใช่ หนูก็เลยตัดสินใจโทรไปหาผู้จัดการของพี่โน่ แล้วก็เลยโทรไปหาพี่โน่ (นีโน่ เมทนี) หนูก็เล่าเรื่องราวทุกอย่าง พี่โน่บอกว่าแม่นมาก เพราะว่าโลงศพของพี่โอ อยู่ข้างๆ สระน้ำที่มีปลา มีสะพาน แต่เขามองไม่เห็น 
หนูก็คิดว่าเรื่องการทำบุญมันคือแสงสว่างจริงๆ เวลาบางคนไปทำบุญ ก็ทำไปอย่างงั้น หนูว่าการทำบุญมันต้องขึ้นอยู่ที่ใจ อยู่ที่จิต บางคนชอบต่อรองกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าถ้าฉันได้ ฉันจะทำอย่างนี้ ถ้าฉันไม่ได้ ฉันไม่ทำให้นะ แต่ถ้าเรารักหรือศรัทธาอะไร จะไม่มีคำว่าต่อรอง หนูอยากจะบอกว่า ทำดีไม่ต้องต่อรอง หรือบางคนคิดว่า ทำดีฉันไม่เคยได้อะไรเลย ทำไปเถอะ เดี๋ยวบุญนั้นจะย้อนกลับมาเอง จะช้า จะเร็ว มันขึ้นกับบุญบารมีที่คุณเคยสะสมไว้
Cr. feawfoaw