โฆษก ศบค. เผยไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 111 ราย เสียชีวิต 3 รายเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด ยอดผู้ป่วยสะสม 2,369 เสียชีวิตสะสม 30 ราย
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) รายใหม่ จำนวน 111 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,369 เสียชีวิต 3 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 30 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 1 ชายรัสเซียอายุ 48 ปี มีประวัติเดินทางไป จ.ภูเก็ต ระหว่าง 18-21 มี.ค. วันที่ 22 มี.ค.กลับพัทยา จ.ชลบุรี เข้ารักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งวันที่ 25 มี.ค. มีไข้ 38.4 องศาเซลเซียส ไอ เจ็บคอ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 เม.ย. รายที่ 2 ชายชาวอินเดีย อายุ 69 ปี เริ่มป่วย 21 มี.ค.มีไข้ 39.3 เซลเซียส ไอ มีน้ำมูก ถ่ายเหลว ปวดกล้ามเนื้อ เข้าไอซียู รพ.เอกชนแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 29 มี.ค. อาการไม่ดีขึ้นเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 เม.ย. รายที่ 3 เป็นชายชาวอเมริกันอายุ 69 ปี เป็นโรคไตเรื้อรัง วันที่ 9 มี.ค.มีอาการไอ ปวดกล้ามเนื้อเข้ารักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ วันที่ 22 มี.ค. มีอาการหายใจหอบเหนื่อยและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 เม.ย.
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 111 ราย กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 37 ราย เป็นกลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้วทั้งสิ้น 37 ราย กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 11 ราย เป็นคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 2 ราย, ไปสถานที่ชุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด และสถานที่ท่องเที่ยว 3 ราย, อาชีพเสี่ยง 4 ราย และกลุ่มบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข 2 ราย กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ แต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 21 ราย อีกส่วนเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantines (เดินทางมาจากประเทศอินโดนีเซีย) 42 ราย โดยสรุปวันนี้ มีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 888 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 1,451ราย เสียชีวิตรวม 30 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 2,369 ราย ทั้งนี้ 3 อันดับของจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงที่สุดโดยนับอัตราป่วยต่อประชากรหนึ่งแสนคน คือ ภูเก็ต 33.9 กทม. 21.6 และยะลา 12.7
สถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั่วโลก ณ เวลา 07.00 น. อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 395,612 ราย 2. สเปน จำนวน 141,942 ราย 3. อิตาลี จำนวน 135,586 ราย 4. ฝรั่งเศส จำนวน 109,069 ราย 5. เยอรมนี จำนวน 107,663 ราย